ไม่พบผลการค้นหา
สื่อต่างประเทศรายงานว่าเพลงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แต่งขึ้นใหม่ ไม่ได้รับความนิยมมากนัก หลังเผยแพร่ในยูทูบ แต่มีผู้กด 'ชอบ' เพียงหลักพัน แต่ 'ไม่ชอบ' มีเป็นหมื่น

สำนักข่าวบีบีซีและเอเอฟพี/สเตรทไทม์ส รายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เผยแพร่บทเพลง 'ใจเพชร' ที่แต่งขึ้นใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. เพื่อเป็นกำลังใจให้กับบุคคลที่เสียสละ ทำความดี ทำประโยชน์เพื่อสังคม และประเทศชาติ แต่เพลงดังกล่าวไม่ได้รับความนิยมมากนัก

บีบีซีและเอเอฟพีรายงานว่าเพลงดังกล่าวถูกนำไปเผยแพร่ในยูทูบ และมีผู้แสดงความรู้สึกชอบในหลักพันคน แต่มีผู้กดแสดงความรู้สึก 'ไม่ชอบ' หรือดิสไลก์ มากกว่าหนึ่งหมื่นคน โดยผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายหนึ่งวิจารณ์ด้วยว่า ต้องการ 'เลือกตั้งใหม่' ไม่ใช่ 'เพลงใหม่'

ส่วนผู้แสดงความคิดเห็นอีกรายหนึ่ง พาดพิงเนื้อเพลง 'ใจเพชร' โดยระบุว่า บุคคลที่มีใจเพชรอย่างแท้จริงจะต้องไม่โกหกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งมีนัยพาดพิงถึงกรณีที่รัฐบาลทหารของไทยประกาศเลื่อนการเลือกตั้งมาแล้วหลายครั้ง ทั้งที่มีคำมั่นสัญญากับนานาประเทศว่าจะจัดการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุดนับตั้งแต่รัฐประหารปี 2557 เป็นต้นมา

นับตั้งแต่เพลงใจเพชรถูกโพสต์ลงในบัญชียูทูบของสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เมื่อวันที่ 9 ก.พ.จนถึงวันนี้ (15 ก.พ.) มีผู้กดชอบเพลงดังกล่าวประมาณ 1,000 คน และผู้แสดงความรู้สึกไม่ชอบ มีประมาณ 32,000 คน แต่ทางช่อง 5 ได้ตั้งค่าไม่ให้มีการแสดงความคิดเห็นท้ายวิดีโอแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ และการทำงานของรัฐบาลทหารกันเป็นจำนวนมาก

ขณะที่เว็บไซต์เซาท์อีสต์เอเชียโกลบ ซึ่งเป็นสื่อภาษาอังกฤษที่มุ่งเน้นการรายงานข่าวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระบุว่า การเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลทหารไทยจัดการเลือกตั้งในปีนี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มว่าการเคลื่อนไหวจะทวีความเข้มข้นยิ่งขึ้น เนื่องจากรัฐบาลทหารมีข่าวอื้อฉาวที่เกี่ยวพันกับการทุจริตและเอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถูกเปิดเผยว่ามีนาฬิกาหรูและแหวนเพชรในครอบครองโดยที่ไม่ได้ระบุไว้ในบัญชีทรัพย์สินที่ต้องชี้แจงต่อสาธารณะ

อย่างไรก็ตาม พอล แชมเบอร์ส ผู้อำนวยการสำนักการวิจัยเอเชียอาคเนย์ของสากลศึกษา มหาวิทยาลัยพายัพ จ.เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์กับเซาท์อีสต์เอเชียโกลบว่า การเลื่อนกำหนดเลือกตั้งซึ่งเป็นความพยายามยื้ออำนาจของกองทัพ ไม่ได้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยและประเทศตะวันตกอีกต่อไป เห็นได้จากที่รัฐบาลหลายประเทศส่งสัญญาณพร้อมรื้อฟื้นความสัมพันธ์กับรัฐบาลไทย

แชมเบอร์สระบุว่ากลุ่มประเทศตะวันตก โดยเฉพาะสหรัฐฯ พร้อมจะมองข้ามประวัติการละเมิดสิทธิมนุษยชนของรัฐบาลทหารไทย เพราะการกดดันหรือระงับความสัมพันธ์กับไทย ทำให้รัฐบาลทหารไทยยิ่งใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการถ่วงดุลและคานอำนาจระหว่างประเทศในภูมิภาค

อ่านเพิ่มเติม: