นายสมชาย แสวงการ เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษา เสนอแนวทาง และรวบรวมความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ถึงข้อกังวลของพรรคการเมือง เรื่องกรอบเวลาการปรับปรุงทะเบียนสมาชิกพรรค เบื้องต้นมีความเห็น ให้พรรคการเมืองขอขยายเวลากับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไปก่อนได้ เพราะเชื่อว่า พรรคการเมืองไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามกรอบระยะเวลา ในวันที่ 5 มกราคม 2561 จะเชิญผู้ร้อง รวมถึง กกต. และ กรธ. มาหารือในวันที่ 22 ธันวาคมนี้
ทั้งนี้ ปฏิเสธว่า ไม่ได้พูดคุยถึงเรื่องรีเซทพรรคการเมือง ตามข้อเสนอนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส.และนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.)
ขณะที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายพรรคการเมือง สามารถทำได้ หากมีเหตุจำเป็น และสถานการณ์เปลี่ยน พร้อมยอมรับว่าพรรคการเมืองใหม่เสียเปรียบพรรคเดิมที่มีอยู่ แต่ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องเซทซีโร่พรรค
ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตแกนนำพรรคมัชฌิมาธิปไตย แถลงข้อเสนอปรองดองทางการเมือง ให้ใช้ระบบ ส.ส. ไม่ต้องสังกัดพรรค /ยกเลิกระบบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ให้ใช้ระบบนี้เป็นเวลา 1 ปี เพื่อตัดปัญหากลุ่ม สี ยืนยันว่า ระบบนี้ ไม่ใช่ข้อเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือเอื้อต่อทหาร
ส่วนที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เห็นชอบเลื่อนวาระตั้งกรรมาธิการตรวจสอบประวัติ ว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คน เพื่อรอความชัดเจนจากศาลฎีกา หลังมีข้อทักท้วงวิธีเลือก กกต.สายศาลว่าขัดกฎหมาย อาจทำให้เป็นโมฆะ หลังจาก ประธาน สนช. จะทำหนังสือถึงที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาเพื่อขอความชัดเจนก่อน เมื่อปรากฎข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาแล้ว จึงจะจัดตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ เพื่อตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรม ว่าที่ กกต.ทั้ง 7 คน