ไม่พบผลการค้นหา
"ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" ชี้สภาพเศรษฐกิจจะเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เศรษฐกิจไทยปัจจุบันจึง "แข็งบนอ่อนล่าง" เดินหาเสียงตลาดประชานิเวศน์ 3 วันนี้ คนยังบ่นเรื่องเศรษฐกิจไม่ดี

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ หนึ่งในผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่พบปะพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน ที่ตลาดประชานิเวศน์ 3 จังหวัดนนทบุรี ช่วยนายนิทัศน์ ศรีนนท์ ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย หาเสียง ซึ่งได้รับการตอบรับจากพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยเป็นอย่างดี

นายชัชชาติ กล่าวว่า ตลาดประชานิเวศน์ 3 เป็นชุมชนใหญ่ มีประชากรอยู่ 4,000-5,000 ครัวเรือน ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของพื้นที่ เป็นเครื่องจักรตัวเล็กที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการจะรู้ว่าเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างไร ต้องมาดูและมาเดินตลาด ที่เป็นชีวิตของคนไทยอย่างแท้จริง

โดยจากการลงพื้นที่วันนี้มีประชาชนมาสะท้อนปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยบอกว่าเศรษฐกิจแย่ลง สะท้อนกำลังซื้อของประชาชนที่ถดถอย ขณะที่บางคนกังวลเรื่องของคุณภาพสิ่งแวดล้อม เรื่องของฝุ่น อากาศ และพาราควอต เศรษฐกิจไทยตอนนี้จึงเป็นแบบข้างบนแข็งข้างล่างอ่อน บริษัทขนาดใหญ่เศรษฐกิจดี แต่คนระดับล่างเศรษฐกิจไม่ดี 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของทุจริตคอรัปชั่นที่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า ไม่เพียงระดับบนแต่ลงมาถึงระดับล่างแล้ว ประชาชนไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงในการเรียกร้องและการแก้ไขปัญหา สิ่งเหล่านี้จึงสะท้อนว่าเรื่องของเศรษฐกิจไปพร้อมกับความเป็นประชาธิปไตย ถ้าปล่อยปละละเลยเรื่องเศรษฐกิจ สุดท้ายข้างบนคนจะแข็งแรงกว่าข้างล่าง ระบอบประชาธิปไตยจะมาช่วยคาน คือเอาเสียงคนส่วนใหญ่มากำกับดูแล

ทั้งนี้ นายชัชชาติ กล่าวต่อว่า อยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ หลังผลโพลชี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ มีคะแนนความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งสวนทางกับความนิยมของพรรคการเมือง ที่พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับหนึ่ง

เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว แต่กาแล้วได้ 3 อย่าง เลือก ส.ส.เขต เลือกพรรคซึ่งก็คือปาร์ตี้ลิสต์ และเลือกตัวนายกฯ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อถึงเวลาที่ประชาชนกาบัตร พรรคการเมืองจะสำคัญที่สุด เพราะทำงานเป็นทีม ทีมคือการมองถึงอนาคต ผลงานในอดีต ความรอบรู้ของทีม 

เมื่อถึงเวลากาบัตรความสำคัญของคนจะน้อยลง ทีมของพรรคจะมีความสำคัญ เพราะไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องมีทีมที่มีความพร้อม ยิ่งกาเบอร์เดียวทีมยิ่งมีความสำคัญ ซึ่งส่วนตัวมองว่าตัวเองไม่ได้มีความหมายมากเท่ากับพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยมีทีมงานที่ครบในทุกด้าน และมีผลงานซึ่งเป้นที่ประจักษ์

นายชัชชาติ ยืนยันด้วยว่า ปัจจุบันพรรคเพื่อไทยยังมีคะแนนนิยมที่ดี โดยประชาชนจะมองถึงสิ่งที่พรรคเพื่อไทยเคยทำมาในอนาคตและสิ่งที่พรรคจะทำในอนาคต โดยเฉพาะสิ่งที่พรรคเพื่อไทยสามารถทำได้จริง ส่วนการโกงการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นนั้น พรรคเพื่อไทยมีกำลังคนไม่เพียงพอ ทุกคนจึงต้องช่วยตรวจสอบ โดยเฉพาะสื่อมวลชนที่ต้องมีความเข้มแข็งในการตรวจสอบ เพราะการโกงไม่ได้โกงพรรคเพื่อไทย แต่เป็นการโกงประชาชน โกงประเทศชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง