ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอาญายกฟ้อง 'เอกชัย' กับพวก คดีขัดขวางขบวนเสด็จเมื่อปี 2563 เหตุไม่มีการแจ้งให้ทราบมาก่อนว่าจะเป็นเส้นทางเสด็จ

วันที่ 28 มิ.ย. เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เอกชัย หงส์กังวาล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง กับพวก พร้อมทนาย ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาในคดีขัดขวางขบวนเสด็จพระราชินี หมายเลขดำ อ.778/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง เอกชัย หงส์กังวาล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง, บุญเกื้อหนุน เป้าทอง, สุรนาถ แป้นประเสริฐ, ชนาธิป ชัยยะยางกูร และ ภาณุภัทร ไผ่เกาะ ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐาน "แสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบัน,พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่ ห้องพิจารณาคดี 904 โดยอัยการโจทก์ระบุฟ้องความผิดพวกจำเลยสรุปว่า เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563 จำเลยทั้งห้า กับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมั่วสุมชุมนุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมืองโดยพวกจำเลยทั้งห้ากับพวกจำนวนหลายร้อยคนได้ลงมายืนบนพื้นผิวจราจรบนถนนพิษณุโลก ลักษณะกีดขวางการจรจรซึ่งได้กำหนดใช้เป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินของพระบรมราชินี และพระบรมศานุวงศ์ เพื่อไปทรงบำเพ็ญกุศล ถวายผ้าพระกฐินประจำปี 2563 ณ.วัดราชโอรสาราม ซึ่งมีรถยนต์ของ บก.จร. และรถยนต์ในขบวนเสด็จขับเบิกทาง โดยจำเลยกับพวก ซึ่งมาร่วมกิจกรรมชุมนุม " เพราะเราทุกคนคือคณะราษฎร และคณะราษฎรยังไม่ตาย" ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ได้บังอาจร่วมกันประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระบรมราชินีโดยช่วยกันใช้กำลังผลักดันแถวแนวหน้าเจ้าหน้าที่กองร้อยควบคุมฝูงชน หรือ (คฝ.) เพื่อขัดขวางมิให้ขบวนเสด็จสามารถเคลื่อนผ่านไปยังเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ไปแยกนางเลิ้งได้ อีกทั้งยังได้ชูสัญญลักษณ์สามนิ้วใส่ขบวนเสด็จอีกด้วย

โดยเอกชัย หงส์กังวาล และบุญเกื้อหนุน เป้าทองได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนก่อนขึ้นไปฟังศาลพิพากษาว่า คดีนี้มีข้อมีพิรุธหลายอย่าง เพราะปกติแล้วขบวนเสด็จ ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้ รวมไปถึงต้องมีการแจ้งล่วงหน้าหากมีขบวนเสด็จ แต่วันนั้นกลับไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทั้งสื่อมวลชน ตำรวจ และผู้ชุมนุมก็ไม่มีใครทราบล่วงหน้ามาก่อนว่าวันนั้นจะมีขบวนเสด็จ จึงเชื่อมั่นว่าเป็นความบกพร่องของตำรวจ และคิดว่าศาลจะเข้าใจพวกตน 

เมื่อถึงเวลาศาลได้พิเคราะห์จากพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงวินิจฉัยได้ว่า ยกฟ้องจำเลยทั้ง 5 คนทุกข้อกล่าวหา เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้ง 5 คนไม่ได้เจตนาร้ายต่อพระราชินี และขบวนเสด็จ รวมทั้งไม่ทราบมาก่อนว่าเส้นทางนั้นจะเป็นเส้นทางที่พระราชินีใช้เสด็จ เพราะเส้นทางที่ราชวงศ์จะใช้เสด็จเป็นความลับทางราชการไม่สามารถเผยแพร่ให้สังคมภายนอกรับทราบได้ 

ขณะที่ บุญเกื้อหนุน เป้าทองได้พูดต่อหน้าศาลว่าขอบคุณพิพัฒน์พิพากษาทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และ เอกชัย หงส์กังวาล ได้กล่าวขอบคุณต่อศาล เพราะตนเชื่อว่าศาลมีความยุติธรรมอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้จะมีคนส่วนใหญ่บอกว่าศาลไม่มีความโปร่งใส และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ตนคิดถูก