วันที่ 4 ก.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 1 ซึ่งเป็นครั้งแรกของสมัยประชุมนี้ โดยมี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรชั่วคราว วาระเลือกตั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1
โดยเวลา 13.42 น. ที่ประชุมมีมติเลือกนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ด้วยคะแนน 312 คะแนน
ขณะที่ วิทยา แก้วภราดัย ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ 105 คะแนน มีผู้งดออกเสียง 77 คะแนน บัตรเสีย 2 คะแนน รวมทั้งหมดเป็น 496 คน
อย่างไรก็ตาม วันนี้มี ส.ส.ที่มารายงานตัวเป็นองค์ประชุมทั้งหมด 497 คน เนื่องจาก สะถิระ เผือกประพันธุ์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ไม่มาประชุม
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า ส.ส.ในจำนวน 77 คนที่งดออกเสียง ส่วนใหญ่เป็น ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และบางส่วนเป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์
ต่อมา ในวาระเลือกตั้งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย แต่เพียงชื่อเดียว ทำให้ พิเชษฐ์ ได้รับการรับรองเป็นรองประธานสภาฯ คนที่ 2
จากนั้น นายพิเชษฐ์ ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ โดยยืนยันจะปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยึดมั่นในระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะฟื้นฟูสำนักงานสภาผู้แทนราษฎรประจำภาคต่างๆ ให้กลับมาเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน ประชาชนสามารถเข้าถึงสภา มีความใกล้ชิดกับประชาชนในทุกภาค เป็นเบื้องต้น
และให้โอกาสสมาชิกได้นำความเดือดร้อนของประชาชนมาหารือในสภา จากคนละ 2 นาทีเพื่อเป็นคนละ 3 นาที เพื่อให้แก้ปัญหาได้รวดเร็วขึ้น ดำเนินการประชุมให้เรียบร้อยยุติธรรมมีความเป็นกลาง ให้เกียรติสมาชิกทุกท่านและปฏิบัติตาม ประธานในที่ประชุม ตามที่ได้มอบหมายในเรื่องต่างๆ
พร้อมทั้งเร่งรัดความพร้อมให้สมาชิกมีคุณภาพมีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ ตลอดจนกอบกู้เกียรติยศศักดิ์ศรีของสภา ให้สามารถทำหน้าที่ถ่วงดุลกับอำนาจตุลาการและอำนาจบริหารได้ สร้างความเข้มแข็งอำนวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมาธิการสามัญ วิสามัญ และให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยของรัฐสภาให้มีความเข้มแข็ง
หลังจากหมดวาระเลือกตั้งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ พล.ต.ท.วิโรจน์ จึงได้กล่าวปิดการประชุม หลังจากนี้จะนำทั้ง 3 รายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ รับตำแหน่งต่อไป