ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุก 4 ปี อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวก ที่บุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อป 2552 และนัดอ่านคำพิพากษาของ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ในวันที่ 31 ต.ค.2562 บรรดา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินเข้าไปทักทายให้กำลังใจ ในระหว่างที่ พ.ต.ท.ไวพจน์ มาร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ (11 ก.ย.2562)
พ.ต.ท.ไวพจน์ กล่าวว่า ศาลยังไม่ได้อ่านคำพิพากษาของตน และยังไม่ได้รับเอกสารใด ๆ จากศาล อย่างไรก็ตามไม่รู้สึกกังวล เพราะตนเป็นนักสู้ ย่อมมีบาดแผล แต่ขอยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นแกนนำไปล้มการประชุม เพียงแต่ไปร่วมเฉย ๆ ไม่ได้ทำความเสียหาย ดังนั้น ขึ้นอยู่กับศาลจะเมตตา พร้อมกันนี้ระบุว่า ไม่ได้เตรียมตัวอะไร หากศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วทำให้พ้นสมาชิกภาพ ก็จะให้บุตรชาย ลงสมัครรับเลือกตั้งแทน ซึ่งคงยังไม่พูดอะไร เพราะทางพรรคก็เห็นถึงสายสัมพันธ์อยู่แล้ว
ด้านนายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า หาก ส.ส.คนใดต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. แม้จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท และในส่วนของสภาทำได้เพียงไปขอคัดสำเนาคำพิพากษาจากศาล เพื่อให้ประธานแจ้งต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป แต่ไม่มีอำนาจไปดำเนินการจับกุมหรือดำเนินการอย่างอื่น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: