วันที่ 15 ธ.ค. 2565 ที่อาคารรัฐสภา จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทระหว่างตนและ ศักดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ที่ได้ประกาศตัวเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรี ของพรรคเพื่อไทย ทำให้ตนต้องทบทวนว่าต้องแยกทางกับพรรคหรือไม่ ว่า เวลานี้มีหลายพรรคทาบทามตนมา แต่ที่ฟังมาหลายพรรค บางพรรคก็ยกเมฆบ้าง ยกฝนบ้าง แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ ส่วนกรณีในพรรคเพื่อไทยถือเป็นเรื่องปกติ แต่ต้องขอบคุณผู้บริหารที่เมื่อตนได้พูด ก็ให้เกียรติเรียกตนเข้าพบเพื่อพูดคุยหาทางออก ขณะนี้อยู่ระหว่างแก้ไขปัญหาร่วมกัน แต่การเมืองเป็นเรื่องของอนาคต บางคนตอบคำถามวันนี้ว่าไม่ย้าย วันมะรืนก็อาจย้าย ดังนั้น ตนก็จะไม่พูดให้เป็นเรื่องผูกรัดมัดตึงตัวเอง

“สถานภาพทางการเมืองของผมในปัจจุบันนี้ ผมยังเป็น ส.ส.เขตคลองสามวา พรรคเพื่อไทย ยังเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันของพรรคฝ่ายค้านตลอดเวลา พรุ่งนี้จะมีแถลงข่าวของพรรคการเมืองใด ไม่มีชื่อผมปรากฏอยู่แน่นอน ผมจะอยู่จนกว่าสภานี้จะสิ้นสุด หรือนายกรัฐมนตรีจะยุบสภา”

เมื่อถามว่า แนวทางการแก้ปัญหาร่วมกันเป็นอย่างไร จิรายุ ระบุว่า ขอไม่ละเมิดเรื่องผู้ใหญ่ในพรรค แต่ที่บอกว่าผู้สมัครที่มีท่าทีเป็นปัญหากับพรรค ทั้งเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ต้องคุยกัน ส่วนตัวให้เกียรติ ไม่ขอก้าวล่วง และยังไม่ทราบข้อสรุปดังกล่าว แต่ตนไม่ได้มีปัญหาอะไรและได้สะท้อนไปแล้วผู้ใหญ่ก็ได้อธิบายไปแล้ว

เมื่อถามว่า มีพรรคการเมืองใดบ้างที่มาทาบทาม จิรายุ ตอบว่า ถ้านับได้ตอนนี้ 10 นิ้วก็ไม่พอ เมื่อถามว่าทั้งฝ่ายค้านและฝ่านรัฐบาลใช่หรือไม่ นายจิรายุตอบว่า การเมืองเป็นเรื่องปรกติเหมือนม้าแข่ง ก็ต้องดูว่าม้าแกลบ จูงเดินหัวหินถ่ายรูป หรือม้าในสนามแข่งก็แล้วแต่ ส่วนตัวไม่เคยบอกว่าตัวเองเก่ง แต่อาจเป็นคนตรงไปตรงมา เนื่องจากก่อนหน้านี้เป็นสื่อมวลชนสายสืบสวนสอบสวน พอมาเป็นนักการเมืองก็ใช้วิชาชีพที่เคยเป็นมาทำงาน 

“เผอิญผมโชคดีได้เป็นฝ่ายค้าน ถ้าเป็นฝ่ายรัฐบาลคงแบะๆๆ ทุกวันนี้ ฉะนั้น 4 ปี ผมยืนยันว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่ และไม่สามารถให้คะแนนตัวเองได้ นอกจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นผู้ให้ ฉะนั้นจึงขอยอมรับว่าทุกคนคงจะโดนทาบทามเป็นเรื่องปรกติ แต่แนวทางไม่ตรงกันก็ไปด้วยกันไม่ได้อยู่แล้ว” จิรายุ กล่าว

จวกวิปรัฐบาลโทษฝ่ายค้านทำสภาล่ม

จิรายุ ยังกล่าวถึงการทำงานในรัฐสภา โดยฝากไปยัง ส.ส.ในวิปรัฐบาล ว่าพวกตนก็เหนื่อยเป็น เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านได้อยู่เป็นองค์ประชุมมาให้ถึง 4 ปี แต่เมื่อสภาล่ม กลับชี้หน้าด่าคนอื่นตลอดเวลา ขอให้ทบทวนตัวเอง เข้าห้องน้ำส่องกระจกชะโงกดูเงาตัวเองด้วย แม้วันนี้จะ ส.ส. ลาออกจำนวนมาก แต่ฝ่ายค้านยืนยันจะทำงานต่อไปเป็นปกติ

ทั้งนี้ จิรายุ ได้ฝากถึง ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรว่า วันนี้มีฝ่ายค้านยังทำหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการประชุมที่เกี่ยวข้องกับรับทราบรายงานต่างๆ ซึ่งมีเรื่องการนำสายไฟฟ้าลงดิน ซึ่งส่วนตัวเป็นประธานอยู่ ขอให้รัฐบาลเข้ามาเป็นองค์ประชุม เพราะหลายเรื่องที่รัฐบาลพยายามทำแต่ไม่เห็นความสำเร็จ เห็นมา 4 ปีแล้ว อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ช่วยแถลงผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมามีอะไรบ้าง ส่วนตัวอยู่สภายังไม่เคยรู้เลยว่ารัฐบาลทำงานอะไร นอกจากนโยบายเราเที่ยวด้วยกันและคนละครึ่ง พอมีค่าแรง 600 บาท ก็ออกมาโวยวาย ยืนยันไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ ปรกติตอนนี้ลูกจ้างบางคนก็มีรายได้สูง มิฉะนั้นคงไม่ทำ ยืนยันเพื่อไทยทำได้จริง ยอมรับว่าของเขาดีจริงๆ