จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับหนังสือจากมูลนิธิพิทักษ์สตรี (Alliance Ani Trafic) ประสานขอความช่วยเหลือเด็กหญิงเอ (นามสมมติ) เชื้อชาติไทใหญ่ สัญชาติเมียนมา อายุ 16 ปี ถูกกลุ่มเอเย่นต์หรือนายหน้า นำพาไปทำงานขายบริการทางเพศ โดยถูกนำมาจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเข้ามาในราชอาณาจักรไทย พามาค้าประเวณีขายบริการทางเพศในกรุงเทพมหานครแล้วส่งต่อไปขายบริการที่สหพันธรัฐมาเลเซียต่อเนื่อง และร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเด็กไม่สามารถทนทำงานได้ เนื่องจากการบังคับให้ขึ้นรองรับแขก จึงร้องขอให้นายหน้านำตัวกลับไปยังสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ซึ่งกลุ่มเอเย่นต์หรือนายหน้าเรียกร้องเงินอ้างว่า เด็กหญิงเอ ติดหนี้อยู่จำนวน 90,000 บาท ญาติของเด็กหญิงเอ จึงตกลงยินยอมจ่ายเงินดังกล่าว เข้าสู่การดำเนินการช่วยเหลือ เด็กหญิงเอ ได้ที่โรงแรมสากล อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยเป็นคดีพิเศษที่ 43/2560 นั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (2 เม.ย.61) พ.ต.ท.สุภัทธ์ ธรรมธนสรักษ์ ผู้อำนวนการกองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำสำนวนการสั่งฟ้องผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว ไปส่งที่สำนักงานคดีค้ามนุษย์ สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสั่งฟ้องผู้ต้องหาดังต่อไปนี้
1.นายบุญทรัพย์ อมรรัตนศิริ หรือป๋ากบ
2.นายเฉลียว หรือ เอส ขันทร์พิมพ์
3.นายศรัทธาธรรม แจ้งฉาย
4.นางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์
5.หจก.อมรินทร์ออนเซน โดย น.ส.ศศิธร วิริเทพสุภรณ์ ในฐานะนิติบุคคล
6.นางสุ หรือรอด หรือนัน ลุทท์ หรือ NAN LUTT
7.นายสมชาย มงคลวารไพบูลย์
8.ชายชาวมาเลเซีย ไม่ทราบชื่อและนามสกุล เรียกกันว่านายหมู หรือ อาหมู
9.ชายชาวมาเลเซีย ไม่ทราบชื่อและนามสกุล เรียกกันว่าอาเฮีย
10.บริษัท เคเอ็นวี ครีเอชั่น ในฐานะนิติบุคคล
ในฐานความผิด ได้แก่ 1.ร่วมกันค้ามนุษย์โดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจาก หรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่ยว กักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก และได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี
2.สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และได้กระทำความผิดตามที่ได้สมคบกัน
3.ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป หรือโดยสมาชิกขององค์กรอาชญากรรมโดยแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี โดยเป็นธุระจัดหา ซื้อ ขาย จำหน่าย พามาจากหรือส่งไปยังที่ใด หน่วงเหนี่่่ยวกักขัง จัดให้อยู่อาศัย หรือรับไว้ซึ่งเด็ก และได้กระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปี
4.กรณีเป็นนิติบุคคลกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ มาตรา 53 พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551
5.ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไป ซึ่งบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายใน หรือนอกราชอาณาจักร และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี
6.เพื่อให้มีการกระทำการค้าประเวณีร่วมกันรับตัวบุคคลซึ่งตนรู้อยู่ว่า มีผู้จัดหา ล่อไป หรือชักกพาไป ซึ่งบุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี แม้บุคคลนั้นจะยินยอมก็ตาม และไม่ว่าการกระทำต่างๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี หรือ สนับสนุนในการกระทำดังกล่าว
7.ร่วมกันเป็นเจ้าของกิจการการค้าประเวณี หรือสถานการค้าประเวณีหรือเป็นผู้ควบคุมผู้กระทำการค้าประเวณี มีเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีทำการค้าประเวณีอยู่ด้วย
8.เพื่อสนองความใคร่ของคนอื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาจาร ซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี
9.เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันรับตัวบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไป เพื่อการอนาคาร ซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม และเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี หรือสนับสนุนในการกระทำความผิดดังกล่าว
10. รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้าอาศัยซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม
11.รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ร่วมกันให้คนต่างด้าวเข้าอาศัยซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม
12.เป็นนิติบุคคลกระทำความผิดฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
