นายนคร มาฉิม อดีต ส.ส.พิษณุโลก กล่าวถึงกฎหมายเลือกตั้งที่มีผลบังคับใช้ว่า คสช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องไม่สร้างเงื่อนไขหรือตั้งกำแพง จำกัดสิทธิของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้ปลดล็อกทางการเมือง ในทุกรูปแบบและต้องไม่ปิดกั้น สิทธิของประชาชน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคของการใช้เสรีภาพที่พึงมี
อย่างไรก็ดีเชื่อว่าประชาชนหรือพรรคการเมืองจะไม่สร้างเงื่อนไขและความวุ่นวาย ให้เกิดขึ้นหลังการปลดล็อกทางการเมืองเพราะทุกคนพร้อมจะใช้สิทธิในการเลือกตั้ง ขณะเดียวกันมองว่าเหตุที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติไม่ปลดล็อคทางการเมือง เพราะกลัวว่าเมื่อลงจากอำนาจแล้ว จะถูก ตามตรวจสอบ ย้อนหลัง จึงขอให้ คสช. อย่ากลัว เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจจริง เชื่อมั่นว่ารัฐบาลที่มาจากประชาธิปไตยจะใช้อำนาจอย่างเป็นธรรม
นายนคร ฝากถึงผู้มีอำนาจว่า อย่าบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชน โดยเฉพาะการใช้กลไกของสว.250 คน ที่ได้ตัดสินใจ ให้ใครมาเป็นผู้บริหารประเทศดูแลทุกข์สุข อย่าทำลายความเชื่อของประชาชน และเชื่อมั่นว่าผู้มีอำนาจในปัจจุบันจะมีทางลง
ส่วนการเตรียมใช้กลไกของราชการ ลงพื้นที่สื่อสารกับประชาชน ก่อนการเลือกตั้ง 90 วันนั้น ถือเป็นกระบวนการที่มีนัยยสำคัญ โดยกังวลว่าอาจเป็นการใช้อำนาจรัฐหรือกลไกระบบราชการชี้นำประชาชนเพื่อสานต่ออำนาจ
"ความกังวลดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการสื่อสารไปยังองค์กรนานาชาติ ที่เคารพในความเป็นประชาธิปไตย ให้เข้ามาสังเกตการณ์ การเลือกตั้งที่ส่อว่าจะมีการทุจริต หรือบิดเบือนเจตนารมณ์ของประชาชนในการเลือกตั้ง หรือกำกับควบคุมให้การเลือกตั้งเป็นไปตามที่ผู้มีอำนาจต้องการ"