เจแปนทูเดย์รายงานอ้างรายการโทรทัศน์ของNHKที่เสนอเรื่องราวของแก๊งยากูซ่าที่ตกต่ำลง อดีตหัวหน้าแก๊งยากูซ่าจากเขตโตไกรายหนึ่ง กล่าวว่า มีสมาชิกแก๊งยากูซ่าบางคนที่เข้าไปลักลอบขโมยผลผลิตทางการเกษตรของชาวบ้าน เนื่องจากการขาดสนับสนุนในเรื่องรายได้ นอกจากนี้เขายังกล่าวอีกว่า ปัจจุบันยากูซ่าส่วนใหญ่กลายเป็นแก็งที่ไม่ได้มุ่งเน้นการก่ออาชญากรรมแต่ยังคงสร้างรายได้ให้แก่สมาชิกในแก๊ง โดยยากูซ่าเหล่านี้จะพบได้ในเมืองใหญ่ๆอย่างโตเกียวและโอซาก้า ขณะที่ยากูซ่าในเขตชนบทจะไม่มีกลุ่มใดๆที่มีการสนับสนุนในเรื่องรายได้ 

อูเอมูระ (นามสมมติ)หนึ่งในสมาชิกแก๊งยากูซ่า วัย 37 ปีได้เริ่มขโมยผลิตผลทางการเกษตรเมื่อ 3 ปีที่แล้ว กล่าวว่า เขาเข้ามาทำงานรับจ้างเป็นพนักงานเข็นรถอาหารในงานเทศกาลของศาลเจ้าท้องถิ่น หรือในบางครั้งก็ไปทำงานก่อสร้าง แต่ทั้งนี้ทางการได้มีการกดดันให้ศาลเจ้าท้องถิ่นและบริษัทก่อสร้างปฏิเสธที่จะรับยากูซ่าเข้าทำงาน ส่งผลให้เขาขาดรายได้ และนำไปสู่การขโมยผลผลิตทางการเกษตรอย่าง แตงโม ซึ่งเขาจะส่งสมาชิกแก็งที่อายุน้อยๆออกไปสำรวจในฟาร์มช่วงเวลากลางวัน และพวกเขาจะเริ่มลงมีปฏิบัติการกันในตอนกลางคืน ทั้งนี้อูเอมุระยังกล่าวว่า ในครั้งหน้าพวกเขาอาจจะเปลี่ยนไปขโมยเมล่อนและมะเขือเทศอีกด้วย

การขาดสภาพคล่องทางการเงิน และการเสื่อมถอยของแก๊งยากูซ่าในญี่ปุ่นส่งผลให้สมาชิกแก๊งหลายคนหันไปทำอาชีพอีก เช่น การเป็นหมอดู ศิลปินปลอมๆที่เร่ขายงานศิลปินต่างๆ หรือบางคนก็ไปเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

แม้แต่ยากูซ่าแก๊งใหญ่หลายแก๊งในญี่ปุ่นต่างก็ปรับเปลี่ยนวิถีการหาเงินเข้ากลุ่มตัวเอง วอชิงตันโพสต์รายงานว่า แก๊งยามากูจิ ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าที่ใหญ่ที่สุดแก๊งหนึ่งของญี่ปุ่น แม้ว่าจะมีข้อห้ามไม่ให้สมาชิกแก๊งยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของการค้ายาเสพติด การต้มตุ๋นหลอกลวง การขโมย หรือการค้าอาวุธ แต่พวกเขาได้หันไปสู่การก่ออาชญกรรมทางโลกไซเบอร์มากขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นกล่าวว่า ในปี 2016 สมาชิกยากูซ่าจาก 6แก๊งได้ร่วมกันปล้นเงินจากตู้กดเงินสดทั่วญี่ปุ่นในวันเดียว ได้เงินไปกว่า 17.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทั้งนี้เมื่อปี 2009 ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติของญี่ปุ่นได้ประกาศทำสงครามกับแก๊งยากูซ่าทั่วประเทศ แม้ว่าภาพลักษณ์ของยากูซ่าในสาธารณะจะเลือนหายไป แต่แก๊งยากูซ่าส่วนใหญ่ก็ยังคงทำงานผิดกฎหมายอยู่เช่นเดิม และยังทำให้ตำรวจญี่ปุ่นติดตามแก๊งเหล่านี้ยากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยเนื่องจากพวกเขาลงไปเคลื่อนไหวใต้ดินอย่างเป็นขบวนการมากขึ้นกว่าเดิมนั้นเอง