นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตามที่มีข่าว กรณีที่ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ได้ให้สัมภาษณ์ ถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีทุจริตระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ล็อตสอง ว่ามีผู้กระทำผิดเพิ่มเติม และอาจจะเกี่ยวโยงถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร่วมทั้งเครือญาติด้วย นั้น ตนในฐานะทนายความ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่แปลกใจ เพราะก่อนนี้มีข่าวมาโดยตลอดว่า กรรมการ ป.ป.ช. บางคน ได้วิ่งเข้า-ออก เรือนจำเป็นประจำ และมีจำเลยในคดี จีทูจี ล็อตแรกหลายราย มีสิทธิพิเศษ ไม่ต้องอยู่ในเรือนจำ แต่อยู่ในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจแทน

และกรรมการ ป.ป.ช. คนเดียวกันนี้ ได้มีความพยายาม นำคดีจีทูจี ล็อตสอง นี้เข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นวาระจร เพื่อให้ตั้งอนุกรรมการไต่สวน แต่กรรมการ ป.ป.ช. หลายคนไม่เอาด้วย เพราะเห็นว่า ด้วยข้อเท็จจริงแล้ว ยังไม่เหมาะที่จะตั้งอนุกรรมการไต่สวนในเรื่องนี้

นายนรวิชญ์ ระบุว่า ด้วยคดีนี้เป็นคดีมีผลได้เสียในทางการเมือง ตนจึงไม่แปลกใจ ที่จะมีข่าวว่า ได้มีการนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และมีการประชุมกันหามรุ่งหามค่ำ มีความขยันเป็นพิเศษ จนแซงคดีนาฬิกาหรู และคดีทุจริตโรงพัก ตนขอให้จับตาดูการทำงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่าจะมีข่าวเกี่ยวกับคดีจีทูจีล็อตสองโดยโยงไปถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายทักษิณ รวมทั้งเครือญาติออกมาเป็นระยะและจะพีคสุดคือช่วงใกล้เลือกตั้ง ขณะที่คดีนาฬิกาหรูและคดีทุจริคโรงพักจะค่อยๆเงียบหายไปเมื่อใกล้ช่วงเลือกตั้ง

โดยก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ระบุถึงความคืบหน้าคดีจีทูจีล็อตสองว่า มีอนุกรรมการ 2 ชุดร่วมไต่สวนอยู่โดยปรากฏผู้กระทำผิดเพิ่มเติมขจึงเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอมติไต่สวนเพิ่มเติมผู้เกี่ยวข้อง พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การรื้อคดีเดิม แต่ ป.ป.ช.ทำตามข้อมูลพยานหลักฐานและตามที่มีการกล่าวหาเป็นคนละกลุ่มกับกลุ่มแรก เพราะสัญญาการขายข้าวเป็นคนละสัญญากัน ส่วนที่มีบางฝ่ายออกมาระบุว่ามีความเพิ่มเติมกับนายทักษิณและเครือญาตินั้น ถ้าเกี่ยวข้องกับใครมีพยานหลักฐานอย่างไร ป.ป.ช.จะดำเนินการผู้เกี่ยวข้องมาเข้ากระบวนการไต่สวน ยืนยันว่า ป..ช.ทำตามหน้าที่และหลักฐาน

ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ยืนยันว่าหลายคดีอยากเร่งให้ แต่คดีโรงพักทดแทน พอไต่สวนใกล้จะเสร็จ ผู้ถูกกล่าวหาก็ร้องขอความเป็นธรรม ทำให้ ป.ป.ช.จึงต้องให้โอกาส เชื่อว่าคดีดังกล่าวจะไต่สวนเสร็จในปลายปีนี้