วันที่ 30 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า อดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์ทวิตเตอร์ Dr.Adisorn Piengkes ระบุว่า "หมอชลน่าน ศรีแก้ว ลาออกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทย !!!!!!!" โดยเปิดเผยว่า กำลังเดินทางไปประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตามปกติ ทุกวันพุธและวันพฤหัสบดี วันนี้มีเรื่องรับทราบของหน่วยงานที่ยื่นต่อสภาตามกฎหมาย และมีญัตติเกี่ยวกับราคาผลไม้ตกต่ำ ราคามังคุดตกต่ำ ขอให้ติดตามการประชุมสภาผู้แทนราษฎร

วันนี้จะมีอีกข่าวคือ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ตามที่ท่านได้พูดปราศรัยไว้กับพี่น้องประชาชน เมื่อภารกิจจัดตั้งรัฐบาลประสบความสำเร็จ ส่ง เศรษฐา ทวีสิน ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้เรียบร้อย นพ.ชลน่าน ก็ปฏิบัติตามคำพูดคือลาออก

“เสียดาย รู้จัก นพ.ชลน่าน ตั้งแต่เริ่มสมัคร ส.ส.ไทยรักไทยครั้งแรก พ.ศ.2544 จำได้ว่าผมเป็นคนหนึ่งที่เป็นตัวหลักในการปราศรัยช่วย นพ.ชลน่าน ที่เป็นอดีต ผอ.โรงพยาบาล และเป็นที่น่าเสียดาย จากนี้คงมีการเลือกตั้งกรรมการบริหาร เพื่อไทยใน 60 วัน เมื่อหัวหน้าพรรคลาออก กก.บห. ต้องพ้นตำแหน่งตาม”

'อดิศร' รับเสียดาย 'ชลน่าน' ลาออกหัวหน้าพรรค

อดิศร เพียงเกษ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เผยว่า ที่ประชุม สส.พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ว่า นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้แสดงเจตจำนงขอลาออกจากหัวหน้าพรรค ตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะลาออกหากมีการร่วมรัฐบาลกับ 2 คน 

แต่ อดิศร ยืนยันว่า ไม่ใช่การลาออกจากการเป็นสส. เพราะ สส.เขตมีความสำคัญ ไม่เหมือนตัวเองที่เป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อแล้วขาลอย ส่วน สส.เขตยึดโยงกับประชาชน ดังนั้น หากหัวหน้าพรรคลาออก ก็จะทำให้คณะกรรมการบริหารพรรคหลุดไปทั้งหมด และต้องมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคภายใน 60 วัน 

"ผมจึงคิดถึงความหลัง ตั้งแต่ท่านเป็น สส.นกแล เมื่อปี 2544 ยุคไทยรักไทย เป็นคุณหมอและผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัว จังหวัดน่าน ซึ่งเป็นคนหนุ่มที่มีอนาคต แล้วก็มีอนาคตจริงๆ ทราบข่าวว่า จะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ก็เลยอาลัยอาวรณ์กันอยู่พอสมควร ใจจริงก็อยากให้ท่านคืนมาเป็นหัวหน้าพรรค เพราะท่านเหน็ดเหนื่อยมามาก" อดิศร กล่าว

ทั้งนี้ จะพูดถึงแคนดิเดตที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปก็ยังเร็วเกินไป ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแคนดิเดต เพราะคนที่สำคัญ ตามข่าวก็ไปเป็นรัฐมนตรีกันหมด ก่อนพูดติดตลกว่า "ก็เหลือแต่ผมเนี่ยแหละ ล้อเล่นนะ"

"ใครก็ได้ เช่น คนที่เคยเป็นรัฐมนตรีคลัง หรือต้องเป็นบุคคลที่เป็นที่ยำเกรงและเป็นที่เคารพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็ได้ ในมุมมองผม เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินมา นพดล ปัทมะ ก็ได้" 

ส่วนเป็นไปได้หรือไม่ว่า แพทองธาร ชินวัตร จะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ อดิศร กล่าวว่า ไม่สามารถบอกได้ ท่านอยู่ในสถานะที่สนับสนุนพรรค และเป็นที่เกรงใจของสมาชิกพรรคทุกคน คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาสำหรับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ 

ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดว่าจะให้ แพทองธาร ดูแลพรรค และให้ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี บริหารประเทศนั้น อดิศร กล่าวว่า ไม่ทราบ เพียงแต่เสียดาย นพ.ชลน่าน ในภาวะศึกสงครามการหาเสียงและการจัดตั้งรัฐบาล 

"ธนูทุกด้าน พรุนไปหมด ถ้าเป็นร่างกายก็พรุน เดินมาถึงตรงนี้ได้ถือว่าเป็นคนที่แข็งเกร่ง และยืนยันว่าไม่ใช่การลาออกแล้วกลับมาเป็นใหม่"

ทั้งนี้ อดิศร ไม่ได้มองว่าการลาออกของ นพ.ชลน่าน จะเป็นการลดแรงเสียดทาน เพราะ FC ด่าก็ด่าเป็นประจำอยู่แล้ว ถ้าวันไหนไม่มีรถวิ่งสวนกันก็ไม่ดี Two-Way Communication (การสื่อสารสองทาง) เป็นเรื่องธรรมดา เป็นสีสันของระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะแตกต่างกับระบอบเผด็จการ ว่ากันบ้าง หยิกกันบ้าง ซึ่งอีกหน่อยก็แถลงนโยบายในวันที่ 8-9 ก.ย.นี้ และจะได้ขับเคลื่อน บริหารประเทศต่อไป คงจะมีปัญหาแต่ผู้นำฝ่ายค้าน ที่ไม่มีใครรับเลย

ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการลาออกของ นพ.ชลน่าน มาตรฐานจะต่ำกว่าตอนที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากหัวหน้าพรรค และ สส.ของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ อดิศร กล่าวว่า ไม่กล้าอาจเอื้อมไปถึงขั้นนายอภิสิทธิ์ เพราะพรรคท่านก็ยังไม่รู้ว่าใครเป็นหัวเป็นหาง ขอให้ไปจัดการของท่านเองก็แล้วกัน และยืนยันว่าเพื่อไทยไม่มีความขัดแย้ง 

"ผมก็พยายามห้ามนายแพทย์ชลน่าน เพราะหลายคนก็ทำแบบนี้ ถ้าท่านทำอย่างนี้พวกผมก็ต้องออกกันหมด แต่ท่านยืนยันว่าถ้าท่านไม่ทำก็กลับบ้านลำบาก"

ขณะที่ข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่แม้จะลาออกก็เหมือนไม่ออกนั้น เพราะออกจากหัวหน้าก็ไปนั่งรัฐมนตรี อดิศร กล่าวว่า คนละอย่างกัน

ส่วนที่ อดิศร เคยพูดว่าจะไปเป็นฝ่ายค้านอิสระนั้น ยืนยันว่า มีความคิดอยากรับผิดชอบคำพูด แต่ตอนนี้ถูกวางตัวให้เป็นประธานวิปรัฐบาล และยืนยันว่าเป็นคนที่ชอบสภา จึงขออนุญาตอยู่ทำหน้าที่เป็นประธานวิป ตำแหน่งนี้เทียบเท่ารองนายกรัฐมนตรีเลย 

อย่างไรก็ตาม อดิศร ยอมรับว่า สิ่งที่ยากที่สุดของสส.คือการเข้าประชุมเป็นมาทุกยุคทุกสมัย เพราะทุกคนธุระเยอะ บางคนก็ตีกอล์ฟ บางคนมีนัด จึงไม่ได้รับปากว่าองค์ประชุมจะไม่ล่มอีก

ส่วนเรื่องความขัดแย้งมีแชทไลน์หลุด สส.เพื่อไทย ถกเถียงถึงตำแหน่งรัฐมนตรี และมีการตั้งคำถามว่าทำไม หลายครั้งนั้น ซึ่ง เศรษฐา ตอบว่าเราทำอะไรไม่ได้เพราะเราได้มาแค่ 141 เสียง กังวลว่าจะให้ภูมิใจไทยมาก ต่อไปเราจะสู้เขาได้หรือไม่ 

อดิศร ยืนยันว่า เราตกลงอยู่ภายใต้เงื่อนไข เช่น กระทรวงมหาดไทย ถ้าเอากรมการปกครอง เราก็ขอดูแลกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ลงพื้นที่แต่ละครั้งผู้ว่าต้องมารับนายกฯ ดังนั้นมันไม่ได้อะไรทั้งหมด ถ้าเป็นรัฐบาลผสม 

ส่วนที่มีการวิจารณ์หน้าตาคณะรัฐมนตรี ที่ใช้คนไม่ถูกกับงาน นั้น อดิศร มองว่าในวันแถลงนโยบาย น่าจะสนุก เป็นสีสันที่แสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองมีภาระ มีจังหวะที่ขึ้นและลงของแต่ละคน บางคน 9-10 สมัยแล้ว ถึงจังหวะที่จะได้เป็นแล้วไม่ได้เป็น

ส่วนกระแสข่าวเรื่องของการตรวจคุณสมบัติของรัฐมนตรีไม่ผ่านเช่น พิชิต ชื่นบาน ที่มีเรื่องของถุงขนม 2 ล้านบาท นั้น อดิศร ชี้แจงว่า เขาไม่ได้ทำความผิด และพ้นระยะเวลามาแล้ว เป็นเรื่องของการละเมิดอำนาจศาล อัยการก็ไม่สั่งฟ้อง เรื่องนี้คนอาจจะไม่เข้าใจ แต่ส่วนตัวก็เสียดาย ชูศักดิ์ ศิรินิล เดินไปไหนก็คล้าย วิษณุ เครืองาม อยู่ จึงกังวลว่าฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลจะไม่แข็ง