โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงหลัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านฯ ได้อภิปรายเปิดญัตติตอนหนึ่งว่า มีการบอกว่าตนเข้ามาในสภาฯ ควรวางบทบาทให้เหมือนรามเกียรติ์ คือตนเล่นบทพระราม พระลักษณ์ อีกฝ่ายเป็นทศกัณฐ์ แต่ตนคิดว่าประเทศชาติไม่ใช่รามเกียรติ์ และเป็นที่ทราบดีว่าท้ายที่สุดจุดจบทศกัณฐ์เป็นอย่างไร ซึ่งตนจะไม่กล่าวอะไรให้เป็นความขัดแย้งหรือไม่พอใจกันอีก จะระมัดระวังอย่างที่สุด
"ผมเคยคุยกับท่านครั้งหนึ่ง ท่านบอกว่า ผมเข้ามาสภาฯ ควรจะวางบททาทให้เหมือน รามเกียรติ์ คือผมคงเล่นฝ่ายบททั้งพระราม พระลักษณ์ทำนองนี้ อีกฝ่ายหนึ่งต้องเล่นเป็นบททศกัณฐ์ใช่ไหม ผมคิดว่าประเทศชาติ ไม่ใช่แบบรามเกียรติ์หรอก แต่ท้ายสุดรามเกียรติ์ ก็รู้อยู่แล้ว ว่าทศกัณฐ์เป็นอย่างไรในตอนท้าย อันนี้คือข้อเท็จจริง" นายกฯ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีใช้ช่วงเวลาชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ เสร็จช่วงเช้า ได้เดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. เพื่อให้การต้อนรับ สแตนลีย์ คัง (Mr. Stanley Kang) ประธานหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: JFCCT) และคณะ เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก)
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านฯ ทำท่าทีเหมือนหลับ ขณะที่นายกรัฐมนตรีขึ้นชี้แจง นายกรัฐมนตรีระบุว่า เขาคงเตรียมการข้อมูลดึกไปมั้ง ก็แล้วแต่ท่าทีกิริยา ขอสังคมเป็นผู้ตัดสินเอง
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางกลับมาเข้าร่วมประชุมสภาฯ อีกครั้ง พร้อมระบุกับสื่อมวลชนกรณีข้อเสนอแนะจากฝ่ายค้านวันนี้ดีใช่หรือไม่ โดยนายกฯ ได้ชี้นิ้วมาที่สื่อมวลชนพร้อมกล่าวตอบว่า “จะคอยดูว่าทำได้จริงหรือเปล่า พูดง่าย แล้วจะทำได้จริงหรือเปล่า ถ้าทำได้ ทำไมถึงจะไม่ทำ”
เวลา 19.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ ใช้สิทธิชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ อีกครั้งถึงประเด็นที่ฝ่ายค้านอภิปรายในประเด็นวิกฤตของแพง ราคาน้ำมัน โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โดยย้ำตอนหนึ่งว่า "ประชาชนเป็นผู้ไว้ใจให้เราเข้ามา บางอย่างต้องคิดไปด้วยกัน อะไรไม่ดีก็เตือนก็บอก อย่างวันนี้อภิปรายทั่วไป มาตรา 152 ให้ผมมาฟังก็ฟัง อะไรที่ผมต้องแก้ก็จะกลับไปแก้ อะไรไม่ดีก็ตรวจสอบ ไม่ใช่วาระที่มาอภิปรายไม่ไว้วางใจ"