นับจากวันที่ 2 มิถุนายนที่สาวน้อย 30 คนได้เดบิวต์เป็นศิลปินไอดอลในนาม ‘BNK48 (บีเอ็นเคโฟร์ตีเอต)’ ปฏิเสธไม่ได้ว่าวงนี้ได้สร้างสีสันและความสดใสให้กับวงการเพลงไทยที่กำลังซบเซาอีกครั้ง
BNK48 เป็นวงไอดอลสัญชาติไทยที่คัดเลือกสมาชิกจากผู้สมัครกว่า 1,300 คนทั่วประเทศ โดยมีต้นแบบมาจากวงไอดอลญี่ปุ่น AKB48 ที่ก่อตั้งในปี 2548 ซึ่งมีจุดขายที่ความสดใสของเด็กสาว และการที่แฟนคลับสามารถเข้าถึงไอดอลได้อย่างใกล้ชิด จนมีการตั้งวงน้องสาวของ 48 Group ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น JKT48 ของอินโดนีเซีย SNH48 ที่จีน TPE48 ของไต้หวัน MNL48 ของฟิลิปปินส์ และ BNK48 ที่ไทย โดยตั้งชื่อจากตัวอักษรย่อในภาษาอังกฤษของคำว่า ‘Bangkok (กรุงเทพมหานครฯ)’ เมืองหลวงของไทย และมีเฌอปราง อารีย์กุล เป็นหัวหน้าวง
ภายในเจ็ดเดือน BNK48 ออกซิงเกิ้ลมาแล้ว 6 เพลง ได้แก่ 'อยากจะได้พบเธอ' 'ก็ชอบให้รู้ว่าชอบ' '365 วันกับเครื่องบินกระดาษ' 'คุกกี้เสี่ยงทาย' 'BNK48' และ 'พลิ้ว' ซึ่งหลังจากแฟนคลับตั้งตารอมานาน ก็ได้ชมมิวสิกวิดีโอเพลงแรก ‘Koisuru Fortune Cookie คุกกี้เสี่ยงทาย’ เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ตามด้วย ‘Aitakatta (อยากจะได้พบเธอ)’ ในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา
“ทุกคนที่ได้รับโหวตก็สมควร และมีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาตินะคะ ก็รู้สึกขอบคุณเหลือเกินที่โหวตให้กับพวกเรา BNK48 นะคะ … แต่พวกเราก็ยังต้องพัฒนาขึ้นไปอีกค่ะ พวกเราจะไม่หยุดอยู่แค่นี้อย่างแน่นอนค่ะ”
นอกจากนั้น วงยังมีรายการประจำที่ออกอากาศทางโทรทัศน์อย่าง BNK48 Senpai และ BNK48 Show รวมถึงการสลับกันไปพูดคุยและทำกิจกรรมที่สตูดิโอในห้างสรรพสินค้าซึ่งถ่ายทอดสดทุกวันทางเฟซบุ๊ก ซึ่งแฟนคลับหลายคนเรียกว่า “ตู้ปลา” และยังมีแอปพลิเคชันอีกมากมายที่ทำมาเพื่อรองรับความนิยมของสมาชิกในวง เช่น Voov ที่เมมเบอร์แต่ละคนสามารถไลฟ์โต้ตอบกับแฟนคลับได้อย่างใกล้ชิด หรือ BNK48 Sweet Call ที่ตั้งเสียงสมาชิกในวงเป็นเสียงปลุกในโทรศัพท์มือถือได้
BNK48 Office ที่ดูแลวงยังนำกลยุทธ์ใหม่ในการสร้างรายได้จากศิลปินมาใช้ในไทย นั่นคือการที่แฟนคลับไม่สามารถถ่ายรูปคู่กับศิลปินที่ชื่นชอบได้อย่างอิสระ เพราะผู้ที่จะถ่ายรูปหรือจับมือกับไอดอลได้นั้น ต้องซื้อบัตรหรืออุดหนุนซิงเกิ้ลเสียก่อน ซึ่ง BNK48 ได้จัดงานจับมือไปแล้วสองครั้ง ซึ่งครั้งแรกจัดเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม ที่เซ็นทรัลพลาซา บางนา และครั้งที่ 2 จัดในวันที่ 18 พฤศจิกายน ที่เจเจมอลล์ โดยทั้งสองงานได้ผลตอบรับเป็นอย่างดี และมีผู้เข้าร่วมงานรวมเกือบหมื่นคน ท่ามกลางสื่อมวลชนที่มาทำข่าวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเดินทางในช่วงแรกของ BNK48 ได้มีสมาชิกประกาศ ‘จบการศึกษา’ ออกจากวงไป 2 คน คือ คิตแคต - วรรษมณฑ์ พงษ์วานิช และซินซิน - ไอรดา ธวัชผ่องศรี จนทำให้ปัจจุบัน BNK48 เหลือสมาชิกรวม 28 คน
แม้ทีมบริหารจะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบอย่างต่อเนื่องจากแฟนคลับ ด้วยปัญหาการจัดการที่ยังไม่ลงตัว รวมถึงการผลิตสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน แต่ทีมงานที่นำโดย ณัฐพล บวรวัฒนะ หรือ ‘จ๊อบซัง’ ผู้จัดการวง ก็ให้คำมั่นที่จะปรับปรุงการทำงานและสื่อสารกับแฟนคลับให้ชัดเจนยิ่งขึ้นต่อไป
โดยปีหน้า BNK48 จะมีโปรเจกต์สำคัญที่น่าจับตา คือการเปิด BNK48 The Campus ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ ซึ่งเป็นโรงละคร ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับ BNK48 โดยเฉพาะ จึงน่าติดตามต่อไปว่าไอดอลสาวสายเลือดไทยกลุ่มนี้จะก้าวไปได้ไกลแค่ไหนในวงการเพลงทั้งในประเทศและต่างแดน
Voice TV จึง ‘อยากจะได้พบ’ เจอกับ BNK48 อีกครั้ง เพื่อพูดคุยถึงความรู้สึกของพวกเธอหลังทราบผลโหวตบุคคลแห่งปีของช่อง รวมถึงเหตุการณ์ ‘ที่สุดแห่งปี’ ของแต่ละคน และเป้าหมายในปี 2561 โดยมีเฌอปราง, โมบายล์ - พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค, มิโอริ โอคุโบะ, เนย - กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล, อร - พัศชนันท์ เจียจีรโชติ, น้ำหนึ่ง - มิลิน ดอกเทียน และแก้ว - ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ เป็นตัวแทนของวง ติดตามคำตอบได้จากคลิป:
คงเป็นงานจับมือที่ผ่านมาของพวกเราค่ะ เพราะว่า เหมือนที่เราเคยไปขึ้น 411 Fandom Party ก็รู้สึกว่าแฟน ๆ เยอะมาก แต่ว่าอันนั้นก็เป็นแฟน ๆ ของศิลปินท่านอื่นด้วย แต่งานจับมือครั้งล่าสุดที่พวกเราไป คือแฟน ๆ ก็เยอะมาก จริง ๆ แล้วทุกคนมาเพื่อมาเจอ มาจับมือเรา งานนั้นเลยเป็นที่สุดแห่งปีของแก้วค่ะ
แก้ว - ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ
ของน้ำหนึ่ง ที่สุดแห่งปีคงเป็นการที่ได้มาเป็น BNK นี่แหละค่ะ มันเหมือนเป็นการปรับเปลี่ยนชีวิตเรา จากเด็กผู้หญิงธรรมดา ๆ เรียนเฉย ๆ กลับต้องมาเป็นไอดอล ฝึกซ้อม ไม่เคยเรียนเต้น ไม่เคยเรียนร้องเพลง เหมือนได้มารับประสบการณ์ใหม่ ๆ มากมายเลยค่ะ ที่หาที่สุดไม่ได้
น้ำหนึ่ง - มิลิน ดอกเทียน
สำหรับอรนะคะก็มีความสุขที่สุดเลยค่ะปีนี้ ตั้งแต่ได้มาอยู่ BNK ก็คือมันอาจมีน้ำตาบ้าง แต่อรเชื่อว่าทุกอย่างที่ผ่านมาเป็นประสบการณ์และเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดในชีวิตค่ะ ที่ครั้งนึงเราได้มีโอกาสนี้มา
อร - พัศชนันท์ เจียจีรโชติ
เฌอคิดว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเยอะที่สุดใน 1 ปี ในตลอดชีวิตเลยดีกว่าค่ะ ในปีนี้มีการเปลี่ยนแปลงเยอะที่สุด มาก ๆ ค่ะ สำหรับทั้งตัวเฌอเอง แล้วก็ได้เข้ามาอยู่ในวง แล้วได้พัฒนาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปอย่างมากมายมหาศาลเลยจริง ๆ ยังไงก็ฝากเชียร์กันต่อด้วยนะคะ
เฌอปราง อารีย์กุล
ของโมบายล์นะคะ ก็เป็นการเหมือนว่าเราได้นำตัวของตัวเองเผยแพร่ไปให้ทุกคนได้รับชม และทุกคนรู้สึกดีใจในตัวตนของเรา ก็เป็นที่สุดว่าเขาได้เห็นตัวตนของเราค่ะ
โมบายล์ - พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค
ของเนยนะคะ เนยรู้สึกภูมิใจที่สุดค่ะ เป็นปีที่รู้สึกภูมิใจในตัวเองมาก เหมือนปีก่อน ๆ เราก็จะใช้ชีวิตแบบเด็กทั่ว ๆ ไป อันนี้เราได้ก้าวมาลองทำงาน ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก รู้สึกภูมิใจกับตัวเองมากค่ะ
ของมิโอริ ปีนี้พูดกับคนไทยเยอะที่สุดค่ะ มิโอริน่าจะพูดภาษาไทยได้เยอะขึ้นใช่ไหมคะ ขอบคุณมากนะคะ
มิโอริ โอคุโบะ