นายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพในอิสตาแกรม ขณะเล่นกับหลานๆ โดยระบุว่า "วิธีไดโนเสาร์สีเขียว ได้ผลเสมอไม่ว่าจะล่อเด็กออกจากที่พัก หรือล่อนักการเมืองออกจากพรรค"

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่า ไม่ได้เสีย อดีต ส.ส. 70-80 คน เพราะหากนับจากปี 2554 พรรคเพื่อไทยเสียอดีต ส.ส.เขตไปเพียง 28 คน โดยตัวเลขดังกล่าวไม่รวมอดีต ส.ส.ที่ย้ายไปพรรคไทยรักษาชาติ ขณะที่ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ไม่ได้นำมารวมด้วย เพราะที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับ ส.ส. เขต มากกว่า ส่วนจะส่งครบทั้ง 350 เขตหรือไม่ อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งจะส่งให้ได้มากที่สุด

ส่วนการเดินหน้าหาเสียง ที่มีข่าวจะให้นายพานทองแท้ ชินวัตร เป็นผู้นำนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ได้จัดทัพเตรียมพร้อมแล้ว ซึ่งสมาชิกทุกคนถือเป็นส่วนสำคัญในการลงพื้นที่ รวมถึงนายพานทองแท้ ที่มาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค ส่วนนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่

และมั่นใจว่าจะหา ส.ส. ลงสมัครในเขตที่มีผู้สมัครย้ายพรรคไปได้ เพราะพรรคเพื่อไทยไม่ได้ประสบปัญหาขาดแคลนผู้สมัคร มีผู้สมัครมากเกินกว่าความต้องการ พร้อมย้ำว่าการที่ผู้มีอำนาจพยายามดูดอดีต ส.ส.จากทุกพรรคการเมืองไปนั้น ก็อาจไม่เป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมาย เพราะการเลือกตั้งทุกครั้ง จะมีกว่าร้อยละ 20 ถึงร้อยละ 30 ที่พลาดเป้า 

นอกจากนี้ประชาชนจะตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่สามารถทำให้ความเป็นอยู่ดีขึ้น ดังนั้นตลอด 4-5 ปี ที่ผ่านมาประชาชนรู้ว่ามีอะไรดีขึ้นหรือไม่ 

ซึ่งนายภูมิธรรม ยังยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่เข้าร่วมหารือกับ คสช. และกกต. ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ เนื่องจากมองว่าไม่ใช่หน้าที่ คสช. และรัฐบาล แต่เป็นหน้าที่ของ กกต. ในการเชิญพรรคการเมืองหารือเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เชื่อว่าทุกพรรคมีความพร้อม แต่ติดขัดแค่คำสั่ง คสช. ดังนั้นต้องปลดล็อคให้เร็วที่สุด เพื่อให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ 

นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากจะลงเล่นการเมืองจริง ควรเปิดหน้าลงแข่งเพื่อความสง่า

ส่วนกรณีที่อัยการจะสั่งฟ้อง 8 แกนนำพรรคเพื่อไทย กรณีแถลงข่าวครบรอบ 4 ปี คสช. ผิดมาตรา 116 ประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ไม่กังวลว่าจะส่งผลต่อการถูกยุบเพื่อไทย เพราะคดีความยังไม่ถึงขั้นนั้น และยังมีอีกหลายขั้นตอน แต่ยอมรับว่าในช่วงสองถึงสามวันที่ผ่านมามี ขบวนการปล่อยข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะถูกยุบทำให้เกิดความสับสน และความรู้สึกไม่มั่นคงภายในพรรค