ไม่พบผลการค้นหา
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงยุติการสอบสวนคดีหญิงชาวอังกฤษกล่าวอ้างว่าตนเองถูกวางยา ขโมยทรัพย์และถูกล่วงละเมิดทางเพศในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยให้เหตุผลว่าข้อมูลไม่เพียงพอในการดำเนินการต่อไปได้

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบช.สตม. รอง ผอ.ศปอส.ตร. จัดชุดคณะพนักงานสอบสวน เดินทางไปสอบปากคำผู้เสียหายชาวอังกฤษ ที่กล่าวอ้างว่า ถูกวางยา ขโมยทรัพย์สินและถูกล่วงละเมิดทางเพศในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ประสานสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อติดต่อครอบครัวของผู้เสียหาย ในการขออนุญาตให้พนักงานสอบสวน สอบปากคำผู้เสียหาย ณ ประเทศอังกฤษ จนกระทั่งครอบครัวของผู้เสียหายตอบอนุญาต ผู้บังคับบัญชาจึงแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย พนักงานสอบสวนหญิง ผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาคยุโรป และล่ามแปลภาษา รวม 3 คน เดินทางไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อสอบปากคำผู้เสียหาย ในประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับคดี เนื่องจากข้อมูลที่มีอยู่ยังไม่เพียงพอจะยืนยันข้อเท็จจริงได้ 

จากการสอบปากคำผู้เสียหายตามประเด็นต่างๆ ผลปรากฎดังนี้

1.เรื่องสถานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่าย แผนที่บริเวณที่เกิดเหตุ ตลอดจนภาพถ่ายบริเวณหาดทรายและบริเวณที่ใกล้เคียงให้ผู้เสียหายดู แต่ผู้เสียหายยังไม่สามารถยืนยันบริเวณที่เกิดเหตุได้

2.เรื่องตำหนิรูปพรรณคนร้ายผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันข้อมูลและตำหนิรูปพรรณของคนร้ายได้ จึงไม่เพียงพอในการดำเนินคดี

3. ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันถึงแผนประทุษกรรมหรือพฤติกรรมของคนร้ายในการกระทำความผิด 

ในการเดินทางไปครั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวนได้รับมอบพยานหลักฐานมา 1 ชิ้น จากผู้เสียหาย และได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจพิสูจน์แล้ว

ดังนั้นจากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และผลการจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง พบว่าข้อมูลไม่เพียงพอในการดำเนินการต่อไปได้ ชั้นนี้จึงขอยุติการสืบสวนสอบสวนไว้ก่อน

โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ระบุว่า กรณีนี้ถือว่าไม่มีพยานหลักฐานใหม่เพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการในทุกมิติ ทุกประเด็นจนสิ้นข้อสงสัยแล้ว จึงยุติการสืบสวนสอบสวนไว้เพียงเท่านี้ แต่หากมีพยานหลักฐานใหม่ เจ้าหน้าที่ก็ยินดีที่จะดำเนินการทางคดีต่อให้

ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล เปิดเผยว่า กรณีนี้ผู้เสียหายยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เป็นเพียงการให้ข่าวกับสื่อมวลชน ยังไม่ถือว่าเป็นการแจ้งความเท็จ เจ้าหน้าที่จึงยังไม่ดำเนินคดีแจ้งความกลับหรือขึ้นแบล็คลิสต์นักท่องเที่ยวรายนี้ ส่วนการดำเนินคดีกับเพจ CSILA นั้น อยู่ระหว่างการดำเนินคดีกับเจ้าของเพจซึ่งอยู่ต่างประเทศ และดำเนินคดีกับผู้ที่กดไลค์กดแชร์ ซึ่งส่งผลให้การกดแชร์สิ่งที่บิดเบือนข้อเท็จจริงนั้นลดลง