ไม่พบผลการค้นหา
นอกจาก Innocent Days จะพูดถึงปัญหาบางประการของโทษประหารชีวิตในญี่ปุ่น ยังมีจุดเด่นคือการสำรวจมนุษย์คนหนึ่งว่าเหตุใดเขาหรือเธอจึงเชื่อว่าตัวเองเป็น ‘ส่วนเกิน’ ของโลกใบนี้ และสมควรที่หายตัวไป

ถ้าพูดถึงซีรีส์ที่ว่าด้วย ‘ตำรวจ’ คุณผู้อ่านคิดว่าฉากที่ต้องเจอคืออะไรบ้างครับ? แน่นอนว่าเราคงนึกถึงการสืบคดีฆาตกรรมซับซ้อนซ่อนเงื่อน การชิงไหวชิงพริบกับผู้ร้ายสมองเพชร หรือไม่ก็ฉากไล่ล่าดุเดือด ยิงปืนกันสนั่น พร้อมมีระเบิดตูมตามให้ตื่นเต้นเป็นระยะ

ทว่าในช่วงตอนแรกๆ ของซีรีส์เกาหลีเรื่อง Live สิ่งที่ผู้ชมจะได้เห็นเหล่าตัวละครเอกทำคือ...

  • พาคนที่ปวดฉุกเฉินไปเข้าห้องน้ำในสถานี
  • ห้ามคนที่มาแจ้งความไม่ให้ต่อยกัน
  • และเช็ดอ้วกคนเมาในรถตำรวจ

Live คือละครความยาว 18 ตอนที่ออกอากาศทางช่อง tvN (บ้านเรารับชมกันได้ทาง Netflix) ละครเรื่องนี้ได้รับการจับตาพอสมควรเนื่องจากเป็นการกลับมาเจอกันอีกครั้งของทีมผู้กำกับและเขียนบทจากซีรีส์ดัง It's Okay, That's Love (2014) แถมยังแสดงนำโดยอีกวางซู หนึ่งในนักแสดงนำของเรื่องนั้น แต่น่าสงสารว่าในเรื่อง Live กวางซูต้องตัดผมสั้นทรงตำรวจจนออกมาเหมือนตัวละครสป็อคใน Star Trek แฟนๆ แซวกันว่าเขาเป็นพระเอกที่หล่อน้อยกว่าตัวประกอบทุกคน อย่างไรก็ดี การแสดงของกวางซูก็ได้รับคำชมเช่นเดิม

ยิ่งไปกว่านั้นตัวละครพระนางของ Live ทั้งยอมซังซู (รับบทโดย อีกวางซู) และฮันจองโอ (จองยูมี) ก็เป็นตำรวจที่ไม่ได้มีอุดมการณ์อะไรเลย พวกเขาเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดา แต่ประสบความยากลำบากในหน้าที่การงาน วันดีคืนดีไปเห็นโปสเตอร์รับสมัครตำรวจ พวกเขามองว่ามันเป็นงานที่เงินดีใช้ได้ มั่นคง และมีความก้าวหน้า ก็เลยสมัครสอบแบบไม่ได้คิดอะไรมาก และแน่นอนว่าทั้งคู่ต้องพบความโหดร้ายเกินคาด

ตัวละครเอกทั้งสองได้สังกัดกลุ่ม ‘ตำรวจสายตรวจ’ หน้าที่ของพวกเขาคือออกตรวจตราความเรียบร้อยในพื้นที่ คดีที่เจอแทบทุกวันก็จะเป็น คนตีกัน คนเมาอาละวาด หรือขับรถชนแล้วหนี เป็นที่มาของภารกิจที่ไม่ค่อยจะเท่นักที่ยกไปข้างต้น แต่ข้อดีของการให้ตัวละครทำงานสายตรวจคือผู้ชมจะรู้สึกว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นเรื่องใกล้ตัว เป็นคดีความที่เกิดขึ้นในชีวิตเราทุกวัน ตำรวจพวกนี้จึงดูเป็นมนุษย์ที่เข้าถึงได้ง่าย

คดีใน Live ดูเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับชีวิตเรา เมื่อเกิดคดีสะเทือนขวัญแบบการฆาตกรรมหรือข่มขืน มันเลยออกมาดู ‘เรียล’ และ ‘น่าขนลุก’ มาก (ในจุดนี้ขอบอกเลยว่าโปสเตอร์ของละครที่ทำออกมาในโทนสดใสร่าเริงนั้นเป็นเรื่องหลอกลวงทั้งเพ) ความน่ากลัวของคดีต่างๆ ยิ่งทวีขึ้นไปอีก เมื่อเหล่าตัวละครตำรวจก็แสดงอาการหวาดกลัวหรือตื่นตระหนกออกมาเช่นกัน

เช่นนั้นแล้วใจความใหญ่ของ Live ไม่ใช่การเข้าข้างหรือพยายามโน้มน้าวให้เราเห็นใจตำรวจ แต่เป็นการนำเสนอภาพตำรวจในฐานะมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานหนัก เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความเข้มแข็ง มีความเปราะบาง มีทั้งปัญหาจากเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว อาจเป็นสไตล์ของละครเกาหลีที่เน้นความดราม่า จนหลายครั้งรู้สึกว่าตัวละครกำลังถูกโบยตีชะตากรรมมากเกินไป แต่นายตำรวจใหญ่ของเรื่องก็พูดประโยคน่าจับใจเอาไว้ว่า “คิดเสียว่าเราอยู่ในความเฮงซวยที่เรียกว่าชีวิตก็แล้วกัน”

‘ความเฮงซวย’ ที่ว่านี้ไม่ใช่เรื่องซวยๆ ในระดับปัจเจกเท่านั้น แต่ช่วงท้ายของ Live ยังโยงใยไปถึงระบบภายในอันฟอนเฟะของตำรวจด้วย พล็อตส่วนหนึ่งว่าด้วยตัวละครตำรวจที่ไม่ใช่คนดีสมบูรณ์แบบ แต่เขาไม่ใช่คนเลวแน่นอน ทว่าด้วยความขัดแย้งของตำรวจชั้นสูง เขาจึงกลายเป็นเบี้ยตัวหนึ่งของสงครามอำนาจและลงเอยด้วยการต้องขึ้นศาล ในฉากหนึ่งตัวละครนี้พูดประโยคอันน่าสะเทือนใจว่า “ผมตั้งใจเป็นตำรวจมา 25 ปี แล้วอะไรเล่า อะไรทำให้ผมต้องมาอยู่จุดนี้”

น่าเศร้าที่ดูเหมือนทุกคนจะรู้คำตอบอยู่แก่ใจ แต่ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา

Live_01.jpg


หากคิดว่า Live ยาวเกินไปจนหมดกำลังใจดู ผู้เขียนมีซีรีส์อีกเรื่องที่คิดว่าคุ้มค่าแก่การชม นั่นคือ ละครญี่ปุ่นเรื่อง Innocent Days ที่มีความยาวเพียง 6 ตอนเท่านั้น

Innocent Days เป็นละครออนแอร์ทางช่องเคเบิ้ล WOWOW ที่ขึ้นชื่อเรื่องละครที่ไม่เป็นไปตามแนวทางกระแสหลัก เช่น มีเนื้อหาหนักหน่วงอื้อฉาว หรือการจบแบบขัดใจคนดู ละครเรื่องนี้น่าสนใจมากตรงที่ได้นักแสดงระดับเอลิสต์มาแสดงนำ ทั้งซาโตชิ สึมาบูกิ, ยูโกะ ทาเคอุจิ และ ฮิโรฟุมิ อาราอิ แถมยังกำกับโดย เค อิชิกาวะ เจ้าของหนังฉาวเรื่อง Traces of Sin (2017)

Innocent Days_05.jpeg

ละครเปิดฉากด้วยหญิงสาวชื่อยูกิโนะ (ทาเคอุจิ) ถูกตัดสินโทษประหารชีวิต ข้อหาของเธอคือการวางเพลิงบ้านแฟนเก่าจนทำให้เมียและลูกแฝดของเขาเสียชีวิต เสร็จสิ้นคำสั่งศาลยูกิโนะกล่าวด้วยสีหน้าตายซากไร้วิญญาณว่า “ฉันขอโทษจริงๆ ที่เกิดมาบนโลกใบนี้” สร้างความสงสัยใคร่รู้กับผู้ชมว่าผู้หญิงคนนี้แท้จริงแล้วเป็นคนอย่างไร เธอผ่านอะไรในชีวิตมาบ้าง ในอีกด้านหนึ่ง ชินอิจิ (สึมาบูกิ) เพื่อนสมัยเด็กของยูกิโนะไม่เชื่อว่าคนอย่างเธอจะฆ่าใครได้ เขาเลยเริ่มสืบเสาะเรื่องราวด้วยการพูดคุยกับบรรดาคนที่เคยใกล้ชิดกับยูกิโนะ

จะว่าไปแล้ว Innocent Days เป็นละครที่เหมาะกับบ้านเราช่วงนี้ที่ประเด็นเรื่องโทษประหารชีวิตกลับมาเป็นที่ถกเถียงอีกครั้ง แม้จะไม่ได้แสดงจุดยืนอย่างออกหน้าออกตา แต่ละครก็บอกใบ้ถึงปัญหาบางประการของระบบลงโทษชนิดนี้ (ผู้เขียนขอไม่ลงลึกเพราะจะเป็นการสปอยล์) อย่างไรก็ดี จุดเด่นของละครคือการสำรวจถึงมนุษย์คนหนึ่งว่าเหตุใดเขาหรือเธอจึงเชื่อว่าตัวเองเป็น ‘ส่วนเกิน’ ของโลกใบนี้ และสมควรที่หายตัวไป

ความดีของละครที่ไม่สามารถเลี่ยงการชื่นชมได้คือเรื่องการแสดง ดาราหนุ่มสุดเท่อย่างสึมาบูกิในเรื่องนี้รับบทเป็นชายหนุ่มผู้แสนอ่อนแอเปราะบางได้อย่างแนบเนียน ส่วนทาเคอุจิที่ผู้ชมชาวไทยมีภาพจำจากบทใสๆ ในเรื่อง Be with You (2004) ผู้เขียนก็ต้องแจ้งให้ทราบว่าช่วงหลังมาเธอมาทางบทสายดาร์คเต็มที่ ทั้งจากเรื่อง The Inerasable (2016) และ Creepy (2016) รวมถึงละครเรื่องนี้ที่คงต้องใช้วลีว่า ‘หนักที่สุดในชีวิตการแสดง’ อาจเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ ว่าสึมาบูกิคือตัวแทนของคนที่เชื่อว่าโลกนี้ยังมีความดีงาม ส่วนตัวละครของทาเคอุจิคือฝ่ายที่เชื่อว่าโลกนี้ไม่มีความหวังอะไรหลงเหลือแล้ว

Innocent Days_03.jpg

ทั้งนี้ความเด็ดขาดของ Innocent Days ยังอยู่ในฉากจบที่เป็นการใช้สัญลักษณ์สั้นๆ ง่ายๆ ในเวลาไม่กี่วินาที ผู้ชมบางคนอาจจะไม่ทันสังเกต ซึ่งคงถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ เพราะเราขอเตือนว่าถ้าคุณสังเกตเห็น มันจะนำมาซึ่งความเจ็บปวดเกินบรรยายทีเดียว

ป.ล. ละครเรื่อง Innocent Days ยังไม่มีให้ดูอย่างถูกลิขสิทธิ์ในบ้านเรา อาจต้องใช้พยายามสักเล็กน้อยในการเข้าถึง และตอนนี้ยังมีแต่ซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษจ้ะ