'โรเบิร์ต เดอ นีโร' นักแสดงชื่อดังชาวอเมริกัน วัย 74 ปี เป็นหนึ่งในผู้ประกาศบนเวทีมอบรางวัล 'โทนี' ครั้งที่ 72 ซึ่งจัดขึ้นที่เรดิโอซิตี้มิวสิกฮอลล์ ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ช่วงค่ำวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา และคำประกาศบนเวทีก่อนที่เขาจะแนะนำการแสดงดนตรีของ 'บรูซ สปริงสทีน' ก็ได้กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก เนื่องจากเขากล่าวโจมตี 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ด้วยถ้อยคำรุนแรง
สำนักข่าวรอยเตอร์และเดอะการ์เดียนรายงานคำพูดเต็มๆ ของเดอ นีโร ซึ่งระบุว่า "ผมจะพูดอะไรสักอย่าง...F**k ทรัมป์ ต่อไปนี้จะไม่มีแล้ว 'เห็นด้วยกับทรัมป์' ต้องบอกว่า F**k ทรัมป์"
ผู้เข้าร่วมพิธีประกาศรางวัลโทนี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักแสดง ผู้กำกับ คนเขียนบท สื่อมวลชน และบุคลากรสายอื่นๆ ในวงการละครบรอดเวย์ของสหรัฐฯ ต่างลุกขึ้นยืนปรบมือให้กับคำประกาศบนเวทีของเดอ นีโร
ส่วนผู้ชมการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์จำนวนมากทวีตข้อความว่า 'โรเบิร์ต เดอ นีโร พูดอะไรบนเวทีมอบรางวัลโทนี' เพราะสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดการประกาศรางวัลดังกล่าว ตัดสินใจเซ็นเซอร์ด้วยการดูดเสียงของเดอ นีโร ทำให้การติดแฮชแท็ก #RobertdeNiro กลายเป็นกระแสในทวิตเตอร์ทั่วโลกอยู่ช่วงหนึ่ง
รอยเตอร์รายงานว่าการถ่ายทอดพิธีประกาศรางวัลโทนีเมื่อปีที่แล้วมีผู้ชมกว่า 6 ล้านคนทั่วสหรัฐฯ และในปีนี้อาจจะมียอดผู้ชมเพิ่มขึ้น หลังจากที่มีการติดแฮชแท็กเรื่องเดอ นีโร ขณะที่สื่อมวลชนคนอื่นๆ ที่ร่วมพิธีประกาศผลรางวัลโทนีได้ทวีตข้อความที่เดอ นีโร พูดบนเวทีอย่างละเอียดเช่นกัน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่ทรัมป์เดินทางออกจากแคนาดา หลังจากเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก (G7) ไปยังประเทศสิงคโปร์ เพื่อเตรียมตัวประชุมร่วมกับคิมจองอึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือในวันที่ 12 มิ.ย. ซึ่งเป็นการประชุมที่ทั่วโลกจับตามอง
ระหว่างที่ทรัมป์เดินทางโดยแอร์ฟอร์ซวัน เครื่องบินประจำตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาได้ทวีตข้อความโจมตี 'จัสติน ทรูโด' นายกรัฐมนตรีแคนาดา ว่าเป็นคนไม่ซื่อสัตย์-อ่อนแอ ทั้งยังพูดถึง 'เอ็มมานูเอล มาครง' ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ว่าไม่จริงใจ เอารัดเอาเปรียบด้านการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นท่าทีที่เดอะวอชิงตันโพสต์ สื่อสหรัฐฯ วิจารณ์ว่าเป็นอาการเกรี้ยวกราดเหมือนเด็กๆ
ส่วนรัฐบาลแคนาดา ฝรั่งเศส และอียู ไม่ได้ออกมาตอบโต้ใดๆ แต่แถลงข่าวว่า ตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ ขอสงวนสิทธิ์ ไม่ลงนามในแถลงการณ์ปิดประชุมจี7 ร่วมกับประเทศอื่นๆ
ขณะที่ 'โรเบิร์ต เดอ นีโร' ชื่อเต็มว่า 'โรเบิร์ต แอนโทนี เดอ นีโร จูเนียร์' เป็นนักแสดงชาวอเมริกันที่ได้รับการยกย่องเรื่องฝีมือการแสดง เคยได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง Raging Bull เมื่อปี 1981 และรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง Godfather ภาค 2 เมื่อปี 2518 ก่อนจะผันตัวเป็นผู้กำกับภาพยนตร์และผู้อำนวยการสร้าง ทั้งยังมีผลงานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดอ นีโร กล่าวโจมตีทรัมป์โดยตรง เพราะช่วงที่ทรัมป์กำลังหาเสียงในการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2559 เดอ นีโร ให้สัมภาษณ์สื่อว่าเขาอยากจะต่อยหน้าทรัมป์เช่นกัน ซึ่งเป็นการตอบโต้ทรัมป์ที่พูดว่าอยากจะต่อยหน้าผู้ชุมนุมประท้วงที่รวมตัวกันตะโกนต่อต้านการเดินสายหาเสียงของเขา
อย่างไรก็ตาม โฆษกประจำทำเนียบขาวและคณะทำงานของทรัมป์ยังไม่ได้ออกมาตอบโต้เดอ นีโร แต่อย่างใด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: