บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟต์ประกาศทุ่มเงิน 80 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 2,600 ล้านบาท เพื่อพัฒนาชุมชนในย่านชานเมืองฟีนิกซ์ ในมลรัฐแอริโซนา ให้กลายเป็นสมาร์ทซิตีแห่งใหม่ ที่ประกอบด้วยเครือข่ายระบบคมนาคมความเร็วสูง รถยนต์ไร้คนขับ เครือข่ายดิจิทัลความเร็วสูง เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ โดยสมาร์ทซิตีแห่งนี้ จะมีขนาดใกล้เคียงกับเมืองเทปเป ในมลรัฐแอริโซนา ซึ่งมีประชากรอาศัยประมาณ 182,000 คน
โครงการนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทคาสเคด อินเวสเมนต์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือเบลท์มองต์ของบิล เกตต์ กับบริษัทหุ้นส่วนทางธุรกิจในมลรัฐแอริโซนา โดยโฆษกของโ���รงการสมาร์ทซิตีแห่งนี้เปิดเผยว่า การสร้างสมาร์ทซิตีขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เป็นสิ่งที่ง่ายและคุ้มค่ามากกว่าการพัฒนาจากโครงสร้างที่มีอยู่เดิม
ปัจจุบัน มลรัฐแอริโซนาถูกขนานนามว่าเป็นมลรัฐที่เป็นมิตรต่อบริษัทด้านเทคโนโลยี โดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไร้คนขับชั้นนำอย่างเวย์โม อูเบอร์ และอินเทล ต่างกำลังทดสอบนวัตกรรมใหม่ๆ ในมลรัฐแอริโซนา
เมืองฟีนิกซ์ มลรัฐแอริโซนา
อย่างไรก็ตาม บิล เกตส์ ไม่ใช่นักลงทุนรายแรกที่ประกาศเนรมิตสมาร์ทซิตีขึ้นมา เพราะเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา 'ไซด์วอล์ค แลบ' บริษัทลูกด้านนวัตกรรมเมืองของอัลฟาเบต ได้ประกาศแผนการลงทุน 50 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 1,600 ล้านบาท ในโครงการพัฒนาสมาร์ทซิตีที่เขตชุมชนในนครโตรอนโตของแคนาดา โดยเน้นการลดมลภาวะในอากาศ การออกแบบระบบคมนาคมที่ปลอดภัยและเอื้อต่อการเดินทางร่วมกัน และสนับสนุนการสร้างทางเท้าและทางจักรยาน รวมถึงการวางผังเมืองที่ยืดหยุ่น ผสานย่านการค้า อุตสาหกรรมและย่านพักอาศัยเข้าด้วยกัน
ขณะที่ซาอุดีอาระเบียเป็นอีกประเทศหนึ่งที่เพิ่งประกาศแผนลงทุน 5 แสนล้านดอลลาร์ หรือกว่า 16 ล้านล้านบาท เพื่อสร้างสมาร์ทซิตีที่จะเป็นศูนย์กลางการเดินทางของโลก และเป็นต้นแบบอารยธรรมของมนุษย์ในอนาคต
ส่วนที่ซิลิคอน แวลลีย์ เทรนด์สมาร์ทซิตี ก็เป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้สตาร์ทอัพจำนวนมากหันมาพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคมขนส่งและการเดินทางในเมือง อย่างรถยนต์ไร้คนขับ หรือบริการแชร์ยานพาหนะ เป็นต้น
ภาพ: AFP