ต่างประเทศ
สำรวจภาระหนี้ของแอฟริกา แต่ละประเทศติดหนี้จีนเท่าไหร่ ?
ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาจีนเข้าไปลงทุนในภูมิภาคแอฟริกาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในโครงการการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆด้วยรูปแบบของการกู้ยืมเงินจากจีนและให้จีนเข้ามาลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆในประเทศเช่น ถนน รถไฟ ท่าเรือและสนามบิน
สถาบันเพื่อการพัฒนาต่างประเทศระบุว่า ประเทศในภูมิภาคแอฟริกากว่าร้อยละ 40 ต่างกำลังตกอยู่วิกฤตหนี้สินที่เป็นอันตราย จากโครงการต่างๆของจีนที่เข้ามาลงทุนและสร้างโครงสร้างพื้นฐานต่างๆในแอฟริกา ซึ่งวิกฤตการณ์ดังกล่าวเกิดจากการก่อสร้างโดยบริษัทจีนที่มีราคาแพงเกินไปและทำให้ประเทศต่างๆก่อหนี้จำนวนมหาศาลที่พวกเขาไม่อาจจะจ่ายคืนได้หมด
แต่ละะประเทศเป็นหนี้จีนเท่าไหร่ ?
ในปี 2015 สถาบันวิจัยจีน-แอฟริกาของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกิ้นส์ สหรัฐฯระบุว่า ในภูมิภาคแอฟริกามี 17 ประเทศที่อาจะมีความเสี่ยงไม่สามารถชำระหนี้คืนจีนได้ โดยเฉพาะประเทศจิบูตี สาธารณรัฐคองโก และแซมเบีย ทั้ง 3 ประเทศนี้มีความเสี่ยงที่สุดจากการเป็นหนี้จีนที่ไม่อาจสามารถชำระคืนได้
ขณะที่รายงานล่าสุดของสถาบันวิจัยจีน-แอฟริกาฯระบุว่า ภูมิภาคแอฟฟริกาเป็นหนี้จีนกว่า 29,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเอธิโอเปียเป็นประเทศที่เป็นหนี้จีนสูงสุด ซึ่งติดหนี้จีนสูงถึง 13,730 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมาด้วยเคนยาที่ติดหนี้จีนอยู่ 9,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ประเทศ แซมเบียมีหนี้สาธารณะสูงถึง8,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งกว่า6,400ล้านดอลลาร์ในเงินจำนวนนี้เป็นเงินกู้ยืมจากจีน ขณะที่ประเทศจิบูตี หนี้สาธารณะกว่าร้อยละ 77 เป็นเงินที่กู้ยืมจากจีน
นอกจากนี้ประเทศอูกันดาก็เป็นหนี้จีนถึง 2,960 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แทนซาเนีย 2,340 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่รวันดา บูรุนดีและซูดานใต้ต่างเป็นมีหนี้ 289 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 99 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯและ182 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯตามลำดับ
เมื่อเร็วๆนี้เซียร์ราลีโอนได้ปฏิเสธการลงทุนของจีนเพิ่มเติมในโครงการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ของประเทศ หลังจากที่ผ่านมาเซียร์ราลีโอนเป็นหนี้จากการลงทุนของจีนสูงกว่า 224 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ขณะที่ธนาคารโลกชี้ว่าภูมิภาคแอฟริกามีหนี้จากต่างประเทศสูงถึง 417,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมี18 ประเทศในภูมิภาคแอฟริกากำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตหนี้เสีย หลังจากที่เปอร์เซนต์หนี้กับจีดีพของประเทศนั้นเมื่อเทียบกันแล้วสูงกว่าร้อยละ 55 และกว่าร้อยละ 20 ของแอฟริกาต่างเป็นลูกหนี้ของจีน ขณะที่อีกร้อยละ 35 ของหนี้ในภูมิภาคนี้เป็นของสถาบันการเงินต่างๆเช่น ธนาคารโลก และอีกร้อยละ 32 เป็นเงินกู้ยืมจากภาคเอกชนต่างๆที่เข้ามาลงทุนในภูมิภาคนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและแอฟริกานั้นต่างเป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน
แอฟริกาจะแก้ปัญหาหนี้จากจีนได้อย่างไร？
หลายประเทศในแอฟริกาขณะนี้กำลังมองหาทางในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของตนเอง หลังจากที่โครงการต่างๆที่จีนเข้ามาลงทุนเริ่มขาดทุนไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง เช่น โครงการก่อสร้างทางรถไฟขนส่งสายแอดดิส อบาบา - จิบูตี ซึ่งใช้เงินลงทุนกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะนี้ทางรัฐบาลเอธิโอเปียกำลังมองหาหนทางในการปรับปรุงโครงสร้างหนี้พร้อมต่อรองเพื่อขยายเงื่อนไขการชำระหนี้คืน ด้วยการยืดระยะเวลาชำระหนี้ไปเป็น 30 ปีในการชำระเงินให้จีน แม้ว่าที่ผ่านจะได้รับเงินกู้ยืมจากบริษัท Sinosure ของฮ่องกงและสถาบันการเงินต่างๆของจีน แต่ก็ยังไม่เพียงพอในการนำเงินดังกล่าวไปชำระหนี้คืนจีนได้ตามระยะเวลาที่กำหนด
อย่างไรก็ตามหลายประเทศในภูมิภาคนี้กำลังเจรจาต่อรองกับทางจีนเพื่อยืดขยายเวลาชำระหนี้ออกไปเช่นกัน ด้วยการขอสินเชื่อ หรือกู้ยืมเงินเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินต่างๆเพื่อนำมาชำระหนี้จากการลงทุนของจีน ขณะเดียวกันกลุ่มสถาบันการเงินเหล่านี้ก็เล็งเห็นในการปรับสภาพคล่องในการขายทรัพย์สินเหล่านี้แก่่นักลงทุนต่างๆที่สนใจเพื่อกระจายความเสี่ยงในการแบกรับการเป็นเจ้าหนี้ของประเทศต่างๆในแอฟริกา
(รถไฟขนส่งสินค้าในเคนยาที่ลงทุนโดยจีน)
ทั้งนี้ The east African ระบุว่า รัฐบาลของภูมิภาคแอฟริกาอาจจะเป็นหนี้มากขึ้น ถ้าหากรัฐบาลแอฟริกาปล่อยให้สถาบันการเงินของจีน นักธุรกิจและสถาบันการเงินต่างๆเข้ามาซื้อกิจการโครงการต่างๆในแต่ละประเทศโดยเฉพาะในโครงการที่จีนเป็นเจ้าหนี้อยู่ ก่อนจะนำไปขายให้แก่นักลงทุนที่ส่งใจลงทุนในภูมิภาคดังกล่าว
และเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เร็กซ์ ทิลเลอสัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวว่า นโยบายของจีนที่มีต่อแอฟริกานั้นต่างสนับสุนให้เกิดการเอื้ออำนวยต่อการทุจริตต่างๆ และยังเป็นอันตรายต่อทรัพยากรในประเทศของแอฟริกาเองอีกด้วย
แม้ว่าที่ผ่านมารัฐบาลจีนยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนและแอฟริกานั้นต่างเป็นความสัมพันธ์ที่ทั้งสองฝ่ายได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน และยืนยันว่าการใช้เงื่อนไขในฐานะเจ้าหนี้ของแอฟริกานั้นไม่ถือเป็นการขยายอิทธิพลของจีนออกไปทั่วโลก
ที่มา BBC
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
