โดยนายทหารใกล้ชิด พล.อ.เปรม เปิดเผยขณะนั้นว่า พล.อ.เปรม ร่างกายอ่อนเพลีย ทานอาหารได้ลดลง แพทย์ขอให้พักผ่อนและงดออกงาน แม้ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น จน ‘ป๋าเปรม’ สามารถเดินออกกำลังกายในบ้านสี่เสาฯ ตามปกติแล้วก็ตาม
ผ่านมา 3 เดือน ‘ป๋าเปรม’ ไม่ได้ออกงานที่พบสื่ออีกเลย จนมาถึงการเปิดบ้านสี่เสาฯ เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. นำคณะรัฐมนตรี ผบ.เหล่าทัพ นายทหาร-ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ นายทหารสายทหารม้า เข้ารดน้ำขอพรวันสงกรานต์ 2561
แต่ ‘คำอวยพร’ ของ พล.อ.เปรม ครั้งนี้กลับไม่ ‘หวือหวา’ เท่าที่ผ่านมา
ต่างจากครั้งก่อน ช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าขอพรวันปีใหม่ 2561 ที่ ‘ป๋าเปรม’ ได้เตือนรัฐบาลและคสช. ถึง ‘กองหนุน’ ที่ลดลง ทำให้เป็น ‘กระแสยาว’ มาหลายเดือน และ ‘สะกิดใจ’ พล.อ.ประยุทธ์ ไปไม่น้อย
แต่ในครั้งนี้ พล.อ.เปรม ได้กล่าวถึงความ ‘เชื่อมั่น’ ใน พล.อ.ประยุทธ์ และ ผบ.เหล่าทัพ ที่เป็น ‘กองหนุน’ สำคัญ แต่ได้สะกิดเตือนเรื่อง ‘ระยะเวลา’ ด้วย เพราะเป็น ‘ชนัก’ ของ คสช. หลัง ‘โรดแมปเลือกตั้ง’ ขยับมาหลายครั้ง
“ในใจผมเป็นพวกเราเสมอ ผมพยายามเฝ้าดูว่า นายกฯจะพาประเทศของเราไปได้สำเร็จ จะใช้เวลาสักเท่าไหร่ ผมมั่นใจนายกฯ และพวกเราทุกคน ผบ.เหล่าทัพ ว่าจะเป็นแรงสนับสนุนที่ดี ให้นายกฯสามารถดำเนินการบริหารประเทศให้สำเร็จให้ได้” พล.อ.เปรม กล่าว
ที่สำคัญการรดน้ำขอพรครั้งนี้ พล.อ.เปรม ได้ให้เพียง 9 คนเท่านั้น ที่ได้รดน้ำขอพร ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ยุติธรรม พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.สูงสุด พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. , พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ซึ่ง พล.อ.เปรม ได้กล่าวย้ำ ‘ขอโทษ’ ถึง 3 ครั้ง
“ผมต้องขอโทษที่ไม่สามารถให้ทุกคนได้รดน้ำ ทั้งๆที่จะคุยด้วย แต้ตอนนี้นายกฯ งานก็เยอะ และผมก็ไม่มีเวลามากพอ ที่จะให้ทุกคนรดน้ำด้วย ก็ขอโทษ” และ “ขอโทษอีกครั้ง ที่ไม่สามารถให้ทุกคนเข้ามารดน้ำได้” พล.อ.เปรม กล่าว
แม้ว่ารัฐบาลและ คสช. ‘กองหนุน’ จะลดลง แต่ระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่ พล.อ.เปรม สะกิดเตือนเกือบ 4 เดือน รัฐบาลก็เร่ง ‘กู้กองหนุน’ และ ‘ฟื้นเรตติ้ง’ ให้กลับมา
โดยเฉพาะผ่าน ‘โครงการไทยนิยมยั่งยืน’ และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็มีแนวทาง ‘ลงพื้นที่’ ให้ครบทุกจังหวัด แม้นายกฯ จะยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรือหาเสียงก็ตาม
เชื่อได้ว่า ‘กองหนุน’ ที่สำคัญของ พล.อ.ประยุทธ์ นอกจาก ผบ.เหล่าทัพ หรือ กองทัพ ก็คือ ‘ป๋าเปรม’ ด้วยนั่นเอง ที่จะเป็น ‘กองหนุน’ ไปจนถึงจบ ‘ภารกิจ’ ของ คสช.
ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ คสช. เข้ามา พล.อ.เปรม จะกล่าวภาคภูมิใจและให้กำลังใจในการบริหารประเทศโดยตลอด อีกทั้งการเปิดบ้านรับเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ก็ย้ำถึง ‘มิตรภาพ’ โดยแทนคำว่า ‘เพื่อน’ ระหว่าง ‘2 ป.’ คือ ‘ป๋าเปรม’ กับ ‘นายกฯประยุทธ์’
“ใจจริงผมเป็นเพื่อนเสมอ และจะเป็นเพื่อนตลอดไป ผมเป็นเพื่อนกับนายกฯมาหลายสิบปี เดี๋ยวนี้เราก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ผมก็ยินดี ภูมิใจมาก นายกฯ เป็นผู้บริหารประเทศ มีพวกเราเป็นผู้สนับสนุน” พล.อ.เปรม กล่าว
สำหรับสิ่งที่เป็น ‘ประเด็น’ สำคัญที่ ‘ป๋าเปรม’ ได้ให้แนวทาง พล.อ.ประยุทธ์ ในการทำงานต่อนั้นคือ ‘เกิดมาต้องตอบแทนคุณแผ่นดิน’ ซึ่งเป็นหลักคำสอนที่ พล.อ.ประยุทธ์ เองก็ได้ย้ำกับ พล.อ.เปรม เกือบทุกครั้งว่า ได้นำมาใช้ในการทำงานเสมอ
ซึ่งครั้งนี้ พล.อ.เปรม ย้ำว่าหลักคิดนี้จะนำมาสู่ ‘ความสงบ’ ของประเทศ เพราะอย่าลืมว่าในเวลานี้ยังเป็นช่วงเวลา ‘สถานการณ์พิเศษ’ และ ‘ช่วงเปลี่ยนผ่านสำคัญ’
“สิ่งหนึ่งที่ผมคิดว่า ผมจะต้องเรียนกับนายกฯตรงๆ คือ ขอให้ยึดมั่นในคำว่า ‘เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน’ ถ้านายกฯ ยึดไว้ได้ แผ่นดินก็จะสงบสุข โดยนายกฯและผู้นำประเทศของเรา ที่พวกเราต้องช่วยกัน” พล.อ.เปรม กล่าว
การเปิดบ้านครั้งนี้ของ พล.อ.เปรม จึงสยบกระแสข่าว ‘ลือ’ ต่างๆไปได้มาก โดยเฉพาะเรื่อง ‘สุขภาพ’ ที่มีกระแสถึงขั้น พล.อ.เปรม ป่วยหนัก และก่อนเปิดบ้าน 1 วัน ก็มีการปล่อยข่าวว่า พล.อ.เปรม งดเปิดบ้านกระทันหันด้วย
บุคคลใกล้ชิดบ้านสี่เสาฯ ระบุว่า “ท่านสุขภาพแข็งแรงดี ยังคงออกกำลังกายในบ้านได้ตามปกติ ไม่ได้เป็นตามกระแสข่าวที่พูดกัน แต่ท่านอายุมากแล้ว อายุ 97 ปีแล้ว การเดินทางไปไหนมาไหน อาจไม่สะดวกมากนัก ท่านเป็นนายทหาร ก็อยากให้บุคลิกต่างๆ ออกมาดีเวลาพบปะผู้คน และท่านไม่ต้องการเป็นข่าวมากนัก”
อีกทั้ง พล.อ.เปรม ยังได้ถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม อย่างเป็นกันเองว่า “ป้อมไปไหน”
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ ได้ตอบกลับว่า “ท่านไม่สบาย ไปตรวจเช็คสุขภาพ เส้นเลือดหัวใจ หลังเคยไปทำบายพาสปีที่แล้ว” ซึ่งการเรียกชื่อ พล.อ.ประวิตร ครั้งนี้ของ พล.อ.เปรม แตกต่างจากครั้งก่อนๆที่ มักจะเรียกว่า ‘คุณป้อม’
ดังนั้น ‘พรจากป๋า’ ที่ส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งนี้ แม้เรียบๆ แต่แฝงไปด้วย ‘ความสัมพันธ์’ ที่แนบแน่น ระหว่าง ‘2ป.’
ในช่วงเวลาที่ รัฐบาล-คสช. ต้องแบกรับ ‘แรงกดดัน’ จากสังคมหลายเรื่องและประคองสถานการณ์เพื่อให้ ‘โรดแมป’ เดินต่อไปได้
ซึ่ง ‘โรดแมป’ นี้ ไม่มีใครคอนเฟิร์มได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าจะ ‘สิ้นสุด’ เมื่อใด ?
แม้ ‘คสช.’ จะ ‘ลงจากอำนาจ’ แล้วก็ตาม !!