ไม่พบผลการค้นหา
สหรัฐฯและประเทศพันธมิตรในยุโรปพร้อมใจกันขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียกว่า 100 คนออกจากประเทศของตัวเอง เพื่อสนับสนุนอังกฤษที่ได้ขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตรัสเซีย 23 คนออกจากอังกฤษก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการตอบโต้กรณีที่อดีตสายลับชาวรัสเซียถูกลอบวางพิษที่อังกฤษ

สหรัฐฯและประเทศพันธมิตรในยุโรปรวมกันมากกว่า 20 ประเทศ ประกาศขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตในประเทศของตัวเองรวมกันอย่างน้อย 114 คน ซึ่งน่าจะเป็นการขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซียครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นการสนับสนุนอังกฤษที่ได้ขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตรัสเซีย 23 คนออกจากอังกฤษก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการตอบโต้กรณีที่อดีตสายลับชาวรัสเซียถูกลอบวางพิษที่อังกฤษ โดยอังกฤษเชื่อว่ารัฐบาลรัสเซียมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่รัฐบาลรัสเซียปฏิเสธ

สหรัฐฯเป็นประเทศที่ขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซียจำนวนมากที่สุด คือ 60 คน ซึ่งจะต้องออกจากสหรัฐฯภายในวันที่ 2 เมษายนนี้ ขณะที่รัฐบาลแคนาดา ยูเครน อัลบาเนีย และประเทศอื่นๆในสหภาพยุโรป เช่น ฝรั่งเศส เดนมาร์ก โปแลนด์ ฟินแลนด์ ก็ประกาศขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซียในประเทศตนเองด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะจำนวนไม่มากเท่าสหรัฐฯ แต่ก็เป็นการแสดงออกถึงจุดยืนที่ต่อต้านรัสเซียที่ใช้อาวุธสารพิษร้ายแรงที่มีผลต่อระบบประสาทบนแผ่นดินของประเทศอื่น 


ars01.jpg

นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอังกฤษกล่าวชื่นชมสหรัฐฯและพันธมิตรในยุโรปที่ร่วมมือกันตอบโต้รัสเซียต่อกรณีนี้ 

ด้านนาย เซอร์เก สกริปัล อดีตนายทหารรัสเซีย วัย 66 ปี ซึ่งลี้ภัยมายังอังกฤษ ที่ถูกวางยาพิษพร้อมกับ ยูเลีย สกริปัล ลูกสาว วัย 33 ปี ขณะนี้ แม้ว่าอาการจะเริ่มคงที่ แต่ว่าก็ยังคงอยู่ในภาวะน่าเป็นห่วงที่ต้องเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งทางการรัสเซียก็ยังคงปฏิเสธอย่างหนักแน่นว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการลอบสังหารครั้งนี้ และรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซียก็บอกว่าการรวมตัวกันขับไล่เจ้าหน้าที่การทูตของรัสเซียในหลายประเทศ นอกจากจะเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซียแล้ว ยังถือว่าเป็นการท้าทายให้มีการเผชิญหน้า ซึ่งรัฐบาลรัสเซียจะมีมาตรการตอบโต้ออกมาแน่นอน  

ภาพ: AP