ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงแนวปฎิบัติของร้านนวดร้านสปารองรับมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3 ว่า ประเทศไทยมีร้านสปาร้านนวดรวมกว่า 10,500 แห่ง แบ่งเป็นร้านนวด 9,400 แห่ง ร้านสปา 900 แห่ง และร้านนวดเพื่อเสริมความงาม 200 แห่ง 

ส่วนนี้ผู้ประกอบการต้องมีการเตรียมความพร้อม โดยให้มีการจัดเตรียมสถานที่อุปกรณ์และหน้ากากอนามัย สำหรับให้บริการกับลูกค้าต้องมีการสวมใส่ทุกครั้งที่ให้บริการ รวมทั้งจัดเตรียมแอลกอฮอล์ เครื่องวัดไข้ เพื่อตรวจเช็คคัดกรองผู้มาใช้บริการพร้อมสอบถามข้อมูลเบื้องต้นว่ามีอาการไข้หรือไออย่างไรบ้าง

ด้านผู้มาใช้บริการทุกครั้งควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมือบ่อยๆ และมีการเว้นระยะห่างการให้บริการ ซึ่งเตียงเก้าอี้ห่าง 1.5 เมตร จัดให้มีการระบายอากาศที่ถ่ายเท ส่วนสปาอบสมุนไพร หรืออบไอน้ำ ส่วนนี้ยังไม่เปิดให้บริการเพราะมีการอยู่รวมกันจำนวนมาก

นอกจากนี้ผู้ประกอบร้านนวดและร้านสปาทุกแห่งต้องมีการลงทะเบียนที่ในเว็บไซต์กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อกรอกให้ข้อมูลสถานบริการของตนเอง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามหลักเกณฑ์ที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพกำหนด เมื่อผ่านหลักเกณฑ์ตามมาตรการแล้ว เจ้าหน้าที่จะมีการยอมรับสถานประกอบการจะสามารถได้ใบรองรับว่า ผ่านมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข ส่วนร้านใดที่ไม่ผ่านต้องกับไปแก้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้ง 

ทั้งนี้ สถานประกอบสปาร้านนวดต้องมีการติดตามรายงานทุก 1 สัปดาห์ และต้องมีการดาวน์โหลดแพลตฟอร์มไทยชนะเพื่อให้ผู้ใช้บริการเช็คอินเข้าร้านทุกครั้ง

รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวอีกว่า ส่วนคลินิกเสริมความงามที่ผ่อนปรนระยะที่ 3 เช่นกันโดยคลินิกเวชกรรมเสริมความงามหรือคลินิกเสริมความงามเปิดอย่างเป็นการ โดยผู้ใช้บริการควรประเมินสุขภาพของตนเอง และปฎิบัติตัวอย่างเคร่งครัดตามกระทรวงสาธารณสุขกำหนดเพื่อความปลอดภัยของทุกส่วน ด้านผู้ประกอบคลินิกเสริมความงาม ควรทำตามมาตราการที่รัฐกำหนดที่ให้สวมหน้ากากอนามัย มีเจลแอลกอฮอล์ ต้องมีการนัดหมายล่วงหน้าไม่ควรให้บริการเกิน 1 ชั่วโมง