2 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ตอนนี้แต่ละพรรคการเมืิง และหน่วยงานทุกภาคส่วน ได้ส่งตัวแทนครบเกือบทุกส่วน จำนวน 35 คน ซึ่งเป็นบุคคลที่เหมาะสมและพร้อมจะร่วมในครั้งนี้

ส่วนบุคคลที่ไม่ได้เข้าร่วม อาจจะใช้วิธีจัดเวทีให้คุยกันซึ่งจะสามารถรับจำนวนได้มากขึ้น แต่ตนพยายามใช้ให้ลงตัวที่ 30 คน ที่มาจากวิชาชีพต่างๆ เช่น ชูศักดิ์ ศิรินิล รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานคนที่ 1 กิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานคนที่ 2 ในส่วนของพรรคการเมือง อาทิ นิกร จำนง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ศุภชัย ใจสมุทร นายทะเบียน พรรคภูมิใจไทย ธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัฐชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และ เดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ในฐานะรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ 

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลจะส่งใครมาร่วมเป็นกรรมการชึดดังกล่าว ภูมิธรรม เผยว่า พรรคก้าวไกลขอพิจารณาผู้เหมาะสมอีกครั้ง ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้รับทราบแล้ว แต่ขอคุยกันในพรรคก่อนจึงยังไม่ส่งชื่อมา 

ภูมิธรรม ย้ำอีกว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวยังมีตัวแทนจากหน่วยความมั่นคง เช่น พล.อ.ชัชวาลย์ ขำเกษม อดีตเจ้ากรมเสมียนตรา พลตำรวจตรีสุเทพ เดชรักษา อดีตรอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.วินัย ทองสอง รองผบ.ตร. ร่วมทั้งตัวแทนภาคประชาชน วิภูแถลง พัฒนภูมิไทย กลุ่มเสื้อแดง สมาคมนักข่าวต่างๆ อีกหลายส่วน ซึ่งจะต้องพูดคุยร่วมกัน อาจจะมีอธิการบดีทั่วประเทศมาร่วมประชุม รวมทั้ง ประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล รวมถึงตัวแทน อดีตกกต. อดีตผู้ตรวจการแผ่นดิน และตัวแทนจากภาคประชาสังคม ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ รวมถึง จ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ อดีตนักกิจกรรมทางการเมือง ถ้าหากพรุ่งนี้ (3 ต.ค.) เสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นก็จะสามารถเริ่มประชุมได้เลย

ทั้งนี้ คณะกรรมการจะใช้เวลานานแค่ไหน ต้องหารือกันก่อน คาดว่าภายในสิ้นปีน่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งจะต้องมีการวางไทม์ไลน์ไว้เพราะมีประเด็นที่ต้องคุยกัน แต่ทั้งนี้ก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงและโยกย้ายได้ ความชัดเจนภายในสิ้นปีนี้จะเป็นการทำประชามติ เราต้องคุยกันเรื่องกรอบของเวลาทั้งหมด ถ้ามีความชัดเจนจะชี้แจงให้ทราบ