อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 29 ก.ย. 2563 กระทรวงการคลัง ได้รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการจัดสร้างสวนป่า "เบญจกิติ" โดยระบุว่า ในส่วนของงานรื้อถอน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2563 

ส่วนงานก่อสร้าง มีแผนเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2565 โดยแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ซึ่งระยะที่ 1 จะก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย. 2564 เพื่อให้มีช่วงเวลาสำหรับจัดเตรียมงานเฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 12 ส.ค. 2564 และระยะที่ 2 จะดำเนินการในงานส่วนที่เหลือ คือ งานปรับปรุงอาคารเดิมให้เป็นอาคารกีฬาและอาคารพิพิธภัณฑ์ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จเดือน ก.พ. 2565

ทั้งนี้ ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2534 ให้ย้ายโรงงานยาสูบทั้งหมดไปอยู่ส่วนภูมิภาคและพัฒนาพื้นที่เดิมเป็นสวนสาธารณะ สวนสุขภาพและออกกำลังกาย ต่อมารัฐบาลมีโครงการจัดสร้างสวนสาธารณะในพื้นที่บริเวณโรงงานยาสูบดังกล่าว เพื่อร่วมโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เนื่องในมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานชื่อสวนสาธารณะว่า "เบญจกิติ" และ ครม.ยังอนุมัติให้ใช้เงินจากรายได้แผ่นดินที่โรงานยาสูบต้องนำส่งคลัง เป็นค่าก่อสร้างสวนสาธารณะ "เบญจกิติ" ประกอบด้วย การจัดสร้างสวนน้ำ ซึ่งดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จเปิดสวนเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2547 ส่วนที่ 2 เป็นการจัดสร้างสวนป่า แบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 เนื้อที่ 61 ไร่ และระยะที่ 2-3 เนื้อที่ 131 ไร่ และ 128 ไร่

ขณะที่ ในการประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดสร้างสวนป่า เบญจกิติ ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2563 ณ ห้องวายุภักษ์ 1 ชั้น 1 อาคารกระทรวงการคลัง โดยมีท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ ราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เข้าร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวที่ข้อง ที่ประชุมหารือถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานสร้างสวนป่าเบญจกิติ บนเนื้อที่ 259 ไร่ ของการยาสูบแห่งประเทศไทย (กยท.) เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 ส.ค. 2564 ทั้งนี้ ได้ปรับแผนการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ และ กยท. ได้ทำการส่งมอบรับมอบพื้นที่โรงงานยาสูบได้ครบทั้ง 3 ระยะ ไปแล้วเมื่อกลางเดือน มิ.ย. 2563 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ในการปลูกต้นไม้ในสวนป่าเบญจกิติ ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ให้เสนอข้อแนะนำในการออกแบบสวนป่า ให้เป็นไปตามกระแสพระราชดำริของสมเด็จฯพระพันปีหลวง โดยออกแบบภูมิสถาปัตย์ให้มีต้นไม้ที่ออกดอกเป็นกลุ่มตามลักษณะพันธ์ไม้ดอกที่มีสีใกล้เคียงกัน เช่น ตะแบก อินทนิลเสลา เป็นสีม่วงปลูกรวมกัน เวลาออกดอกก็จะหนาแน่น

นอกจากนี้ ที่ประชุมหารือถึงการสร้างหอสูงชมเมืองเฉลิมพระเกียรติในพื้นที่สวนป่าเบญจกิติ ล่าสุดผู้ออกแบบเสนอแนวคิดก่อสร้างหอสูงชมเมืองเป็นรูปดอกบัวกลางน้ำ ประชาชนสามารถขึ้นไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ชมภูมิทัศน์ กรุงเทพฯ แบบ 360 องศา โดยจะให้เป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของประเทศไทย เพราะสวนป่าแห่งนี้ ได้ดำเนินการบนพื้นที่ที่มีมูลค่าสูงใจกลางเมือง 

• แผงผังสวนเบญจกิติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ธนารักษ์ เร่งสรุปลดค่าเช่าที่ราชพัสดุให้เอกชนสิ้นเดือน ก.ย.นี้
• 'เครือเจริญ' กินรวบ 'อสังหาฯ' ย่านพระราม 4