ไม่พบผลการค้นหา
'ชัชชาติ' คุย TDRI ร่วมขับเคลื่อนกรุงเทพให้เป็นเมืองน่าอยู่ จับมือแก้ปัญหา 5 ด้าน ต่อยอดงานวิจัย กทม.

วันที่ 16 มิ.ย. ที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหาร กทม. เข้าพูดคุยกับ สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ ถึงประเด็นการขับเคลื่อนกรุงเทพให้เป็นเมืองน่าอยู่ได้อย่างไรด้วยงานวิจัย โดยกำหนดกรอบความร่วมมือไว้ 5 ประเด็น ได้แก่ การศึกษา การจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย การจัดการขนส่งสาธารณะ การจัดการขยะ ระบบการออก-ขอใบอนุญาตต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 

โดยหลังการหารือ ชัชชาติ กล่าวว่า ทีดีอาร์ไอ เปรียบเหมือนสมองให้กับหลายหน่วยงาน ซึ่งหลายปัญหาได้มีการศึกษาไว้แล้ว ดังนั้น ความร่วมมือระหว่างกันจะทำให้มีคำตอบเรื่องต่างๆ ที่รวดเร็ว ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

เริ่มต้นตั้งแต่เรื่องการศึกษา ทางทีดีอาร์ไอได้นำแผนงานการศึกษาทั้ง 29 แผนของ กทม. ไปดูรายละเอียด และช่วยพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร หัวใจอย่างหนึ่งคือการหาจุดเชื่อมร่วมกัน กับหลายๆ ภาคีเครือข่ายเพื่อปรับปรุงคุณภาพการศึกษาให้ดี กทม.เองมีอิสระในการปรับปรุงหลักสูตร อุปกรณ์ ครุภัณฑ์ต่างๆ และทีดีอาร์ไอสามารถช่วยสอดส่องและรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนรับทราบได้ มองว่า เป็นการช่วยลดความเหลื่อมล้ำในระยะยาว เพราะต้องการให้คุณภาพชีวิตคนรุ่นหลังดีขึ้น

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการฝึกอาชีพ กทม.ถือว่ามีโรงเรียนมีศูนย์ฝึกอาชีพแล้ว แต่ส่วนตัวมองว่ายังไม่ตอบโจทย์ในภาคอุตสาหกรรมปัจจุบัน หลักสูตรที่สอดคล้องกับธุรกิจสร้างสรรค์ในอนาคตยังไม่มี เพราะฉะนั้นต้องมีการปรับหลักสูตรให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น เมื่อเรียนแล้วสามารถรับประกันสถานะการมีงานทำ โดย กทม. มีส่วนช่วยเตรียมระบบนิเวศและแรงงานที่เหมาะสม ไม่เฉพาะกลุ่มรากหญ้าแต่รวมถึงคนทำงาน ขยายการให้บริการให้เชื่อมโยงกับความต้องการของตลาด 

ในส่วนการจัดระเบียบหาบเร่-แผงลอย ทีดีอาร์ไอ ได้ ศึกษาระเบียบกทม.โดยละเอียด คงมีการหารือในระยะยาวต่อไป ไม่ว่าจะเรื่องการขึ้นทะเบียน-กำหนดพื้นที่ให้ผู้ค้า การจัดทำศูนย์อาหาร Hawker Center หรือการแสวงหาความร่วมมือกับภาคเอกชน

สำหรับเรื่องระบบขนส่งสาธารณะ ชัชชาติ ระบุว่า ทางทีดีอาร์ไอ มีข้อเสนอแนะเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่มีข้อน่าสนใจมาก แต่เรื่องนี้มีรายละเอียดเยอะ มองว่าในอนาคตต้องมีการหารือนอกรอบ ทั้งนี้ เรื่องป้ายรถเมล์ควรมีการกำหนดและเพิ่มจุดที่เหมาะสม รวมทั้งทำระบบติดตามพิกัดรถเมล์ให้ดีด้วย

นอกจากนี้ เรื่องการจัดการขยะ มีความคิดเห็นตรงกันว่า ต้องนำร่องทำระบบคัดแยกขยะอินทรีย์และขยะรีไซเคิลในบางเขตก่อน เพราะการฝังกลบเป็นไปได้ยากแล้วในอนาคต เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดปริมาณขยะที่มี 

ส่วนโจทย์เรื่องคอรัปชั่น ทางองค์การต่อต้านคอร์รัปชั่นหรือ ACT ให้มาปรึกษาร่วมกับ ทีดีอาร์ไอ โดยมองว่าสิ่งที่ควรทำ คือ ปรับปรุงระบบให้บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ลดความยุ่งยากในการออกใบอนุญาตการก่อสร้างและการทำงานต่างๆให้อยู่ในที่เดียว ซึ่งต้องหารือถึงแนวทางที่สมควรต่อไป

ด้าน สมเกียรติ กล่าวว่า ในประเด็นต่างๆ เคยมีการพูดคุยตั้งแต่ในช่วงก่อน ผู้ว่าฯกทม.ขึ้นดำรงตำแหน่ง  ในฐานะสถาบันวิชาการ ขอยืนยันที่จะหนุนเสริม กทม. เพื่อทำให้นโยบายที่คนกรุงเทพอยากได้ไปสู่การปฏิบัติจริง และขอแสดงความยินดีกับคนกรุงเทพที่ได้ ผู้ว่าฯ กทม.ที่มีทีมที่อยากทำงานให้คนกรุงเทพฯอย่างแท้จริง