ไม่พบผลการค้นหา
กองทัพรัสเซียทำการโจมตีเมืองอีร์ปิน ซึ่งติดกับชายขอบของกรุงเคียฟเมืองหลวงของยูเครน ขณะที่ประชาชนจำนวนหนึ่งพยายามอพยพหนี ท่ามกลางการทิ้งระเบิดและกราดยิงของทหารรัสเซีย จนส่งผลให้มีครอบครัวและลูกวัยเล็กต้องเสียชีวิตลง

โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้สัญญาว่าตนจะลงโทษ “พวกสารเลวทุกตัว” ที่กระทำการทารุณกรรมจากการรุกรานยูเครน โดยเฉพาะจากเหตุการณ์ล่าสุดที่กองทัพรัสเซียทำการกระหน่ำยิงประชาชนชาวยูเครนที่กำลังอพยพหนีตายออกจากเมืองชายขอบของกรุงเคียฟ จนส่งผลให้มีครอบครัวชาวยูเครนเสียชีวิต

เซเลนสกีระบุในการแถลงออกโทรทัศน์ของยูเครนถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตว่า “พวกเขาพยายามที่จะออกมาจากเมือง เพื่อที่จะหลบหนี ทั้งครอบครัว มีกี่ครอบครัวแล้วที่เสียชีวิตในยูเครน เราจะไม่ให้อภัย เราจะไม่ลืม เราจะลงโทษทุกคนที่กระทำการอันทารุณโหดร้ายในสงครามนี้”

“มันจะไม่มีที่สงบเงียบที่ไหนบนโลกใบนี้สำหรับพวกคุณ นอกเสียจากหลุมศพ” เซเลนสกีระบุถึงกองทัพรัสเซียที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีเมืองอีร์ปิน ซึ่งตั้งอยุ่ทางทิศตะวันตกของกรุงเคียฟ โดยเหตุการณืดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ประชาชนชาวยูเครนนับร้อยรวมตัวกันที่บริเวณสะพานของเมืองอีร์ปิน เพื่อที่จะหลบหนีออกนอกเมือง

ในการหลบหนีครั้งดังกล่าว มีทหารยูเครนคอยให้อำนวยความสะดวกเพียงแค่ไม่กี่สิบคน หลายนายทำหน้าที่คอยช่วยถือกระเป๋าเดินทางเพื่อช่วยประชาชนหลบหนีออกนอกเมือง ในขณะที่ The New York Times สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้ได้

Times รายงานว่า ปืนครกของกองทัพรัสเซียตั้งอยู่ห่างออกจากสะพานดังกล่าวออกไปไม่มาก ก่อนที่กองทัพรัสเซียจะเคลื่อนเข้าใกล้มายังถนน และทำการยิงโจมตีพลเรือนในที่โล่ง โดยมีประชาชนชาวยูเครนเสียชีวิตจากการโจมตีในครั้งนี้ 8 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิง ลูกวัยรุ่นของเธอ และลูกสาววัยประถม รวมถึงเพื่อนของครอบครัวดังกล่าวพร้อมข้าวของของผู้เสียชีวิตที่กระจุยกระจายอยู่บนถนนข้างร่างไร้ชีวิตของพวกเขา

นายกเทศมนตรีของเมืองอีร์ปินระบุว่า ตนเห็นประชาชน 4 คนเสียชีวิต “ต่อหน้าต่อตา” ในขณะที่กระสุนตกใส่พวกเขา “มันเป็นเรื่องผิดคุณธรรม พวกเขาคือสัตว์ประหลาด อีร์ปินตกอยู่ในภาวะสงคราม อีร์ปินยังไม่ยอมแพ้” โอเล็กซานเดอร์ มาร์คูชิน ระบุ ก่อนจะเปิดเผยว่าอีร์ปินตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพรัสเซียแล้ว

การรุกรานยูเครนโดยรัสเซียส่งผลให้มีประชาชนชาวยูเครนกว่า 1.5 ล้านคนอพยพออกนอกยูเครนแล้ว และยังคงมีท่าทีที่ผู้อพยพยูเครนจะพุ่งสูงไปแตะถึงหลัก 4 ล้านรายในอนาคต อย่างไรก็ดี รัสเซียได้ตกลงว่าจะเปิดทางให้ประชาชนชาวยูเครนอพยพจากเมืองมารีอูปอลทางตอนใต้ของยูเครน ซึ่งมีท่าเรือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่รัสเซียเข้ายึดครองเพื่อให้ประชาชนยูเครนสามารถหลบภัยสงครามไปตามระเบียงมนุษยธรรมได้

อย่างไรก็ดี ความพยายามในการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ดังกล่าวล้มเหลวกว่า 2 ครั้ง จากการที่รัสเซียยังคงระดมยิงบนเส้นทางหนี และไม่มีการส่งเจ้าหน้าที่จากกองทัพของตนเข้าสังเกตการณ์การอพยพตามที่ตกลงกับยูเครนเอาไว้แต่แรก จนประชาชนชาวยูเครนไม่สามารถอพยพหนีออกนอกเมืองไปสู่พื้นที่ปลอดภัยได้

“มันคือการฆาตกรรม ฆาตกรรมที่จงใจ” เซเลนสกีระบุถึงเหตุการณ์การสังหารประชาชนชาวยูเครนโดยกองทัพรัสเซีย ในขณะที่เซเลนสกีเตือนว่าในวันนี้ (7 มี.ค.) รัสเซียอาจมีการยิงถล่มยูเครนหนักมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ยูเครนได้ส่งเรื่องฟ้องร้องไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อขอให้รัสเซียหยุดการรุกรานยูเครนในทันที พร้อมชี้ว่ารัสเซียกำลังทำผิดกฎหมายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ที่มา:

https://www.theguardian.com/world/2022/mar/07/ukraine-volodymr-zelenskiy-vows-revenge-russia-forces-fleeing-family-civilians-killed-shelling-irpin-town?CMP=Share_iOSApp_Other&fbclid=IwAR0hEQViBuwVsVN9lH-DnitD3jV5UYz-AelvtcQW0livrVNNvQmkod7esWE

https://www.nytimes.com/2022/03/06/world/europe/ukraine-irpin-civilian-death.html