เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของฮุนเซน ชนะการเลือกตั้งทั้งหมดของประเทศ ยกเว้น 5 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎร โดยการเลือกตั้งในครั้งนั้น ถูกประณามอย่างเป็นวงกว้างว่าเป็นการหลอกลวง หลังจากพรรคฝ่ายค้านหลักถูกห้ามลงสมัครรับเลือกตั้ง
ในช่วงของการลงมติเลือกฮุนมาเนต ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีของกัมพูชาคนใหม่ ลูกชายคนโตของฮุนเซนกล่าวกับสมาชิกรัฐสภากัมพูชา หลังจากการลงคะแนนเสียงว่า “วันนี้เป็นวันประวัติศาสตร์ของกัมพูชา”
ไม่กี่วันหลังจากชัยชนะอย่างถล่มทลาย ฮุนเซน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในโลก ประกาศว่าเขาจะก้าวลงจากตำแหน่ง และมอบอำนาจให้กับฮุนมาเนต หลังจากที่กัมพูชาตกอยู่ภายใต้การปกครองระบอบอำนาจนิยมชอฃอุนเซนมานานเกือบ 4 ทศวรรษ
พระมหากษัตริย์ของกัมพูชา ซึ่งมีบทบาทเชิงสัญลักษณ์ในส่วนใหญ่ ทรงเรียกประชุมรัฐสภากัมพูชาเมื่อวันจันทร์ (21 ส.ค.) อันเป็นการปูทางให้ฝ่ายนิติบัญญัติของประเทศเลือก นายพล ฮุนมาเนต วัย 45 ปี ขึ้นเป็นผู้นำคนใหม่ของประเทศในวันอังคาร
สำนักข่าว AFP รายงานอ้างอิงรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของฮุนมาเนต ว่าประกอบไปด้วยญาติของเขาจำนวนหนึ่ง และลูกๆ หลายคนของพันธมิตรของฮุนเซน ที่ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งระดับสูง นอกจากนี้ ฮุนมานี ลูกชายคนเล็กของฮุนเซน ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพลเรือน และ เนตสะวัน หลานชาย ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นับเลือกขึ้นเป็นรองนายกรัฐมนตรี ยิ่งไปกว่านั้น รายชื่อบุตรชายของรัฐมนตรีมหาดไทยและกระทรวงกลาโหมคนปัจจุบัน ยังจะเข้ามารับตำแหน่งแทนพ่อของตัวเองด้วย
หลังขึ้นสู่อำนาจในปี 2528 ฮุนเซนได้ช่วยรื้อฟื้นประเทศ ที่เสียหายจากสงครามกลางเมือง และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ให้มีความทันสมัย แม้ว่านักวิจารณ์จะกล่าวว่า การปกครองของฮุนเซนเต็มไปด้วยนโยบายการทำลายสิ่งแวดล้อม การกินรวบที่ดินติดสินบน และการกำจัดคู่แข่งทางการเมืองเกือบทั้งหมดของเขา
สหรัฐฯ สหประชาชาติ และสหภาพยุโรป ต่างประณามการเลือกตั้งของกัมพูชาเมื่อเดือนที่แล้ว ว่าไม่มีความเสรีและเป็นธรรม อย่างไรก็ดี ฮุนเซนปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านั้น
ฮุนเซนยังกล่าวด้วยว่าส่งต่อตำแหน่งของเขา ซึ่งเป็นการสืบทอดอำนาจผ่านทางตระกูลของตัวเอง ที่นักวิจารณ์บางฝ่ายเทียบเคียงว่าใกล้เคียงกับเกาหลีเหนือ กำลังดำเนินการไปเพื่อรักษาสันติภาพ และหลีกเลี่ยง "การนองเลือด" หากตัวเขาเองเสียชีวิตในตำแหน่ง ยิ่งไปกว่านั้น ฮุนเซนยังเตือนด้วยว่า หากชีวิตของ ฮุนมาเนต ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง เขาจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอีกครั้ง
แม้จะได้รับการศึกษาในสหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ฮุนมาเนต มีสัญญาณเพียงไม่กี่อย่าง ที่เขาจะบริหารประเทศไปในทางเสรีนิยมมากกว่าพ่อของตัวเอง ฮุนมาเนตยังเป็นสมาชิกของคณะกรรมการถาวรอันทรงอำนาจของพรรครัฐบาล ด้วยการเป็นผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา มาตั้งแต่ปี 2561 นอกจากนี้ ฮุนมาเนต ยังได้พบกับผู้นำระดับโลกบางคน รวมถึง สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน พันธมิตรหลักและผู้อุปถัมภ์คนสำคัญของกัมพูชา
ที่มา: