ในวาระ 16 ม.ค.ของทุกปี ที่ถูกกำหนดให้เป็น ‘วันครู’ เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ระลึกถึงครูบาอาจารย์ที่คอยพร่ำสอน ให้นักเรียนในวัยเยาว์มีความรู้ และสอนสั่งให้ยึดถือหลักปฏิบัติไม่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ละเมิดสิทธิผู้อื่น เพื่อเติบโตในสังคมอย่างมีคุณค่า
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในหมู่ผู้ยึดมั่นในศรัทธาความเป็นครู ก็มีผู้ที่หลงละเหลิงไปกับอำนาจที่ตนเองพึงมี เมื่อ ‘ครู’ ผู้คอยฟูมฟักให้เหล่านักเรียนยึดถือหลักศีลธรรมอันดีของสังคมไทย จะเต็มไปด้วยข่าวคาวความฉาวทั้งการทุจริตติดสินบน รวมถึงใช้อำนาจในทางที่ผิด ล่วงละเมิด-ลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นเพียงส่วนน้อย แต่ต้องยอมรับว่ามันทำให้ผู้คนในสังคมจดจำกับวีรกรรมที่เป็นรอยด่างพร้อยของแวดวงข้าราชการครูจนไม่อาจลบเลือน
‘วอยซ์’ ขอยก 5 ตัวอย่าง ที่เป็นคดีเกี่ยวโยงกับข้าราชการครูที่เป็นข่าวฉาวในหน้าสื่อ
ในปี 2560 มีคดีการรับเงินแป๊ะเจี๊ยของผู้บริหารโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย ซึ่งถูกบันทึกโดยผู้ปกครองรายหนึ่งเมื่อเดือนเมษายน 2560 ซึ่งกลายเป็นข่าวที่โด่งดังขึ้น เมื่อมีการเปิดเผยคลิปและถูกร้องเรียนผ่านสื่อ และยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ต่อมาภายหลังการจตรวจาอบเสร็จสิ้นในปี 2563 มีคำสั่งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยมี นายอานนท์ สุขภาคกิจ ศึกษาธิการจังหวัดกรุงเทพมหานคร ได้ลงนามในคำสั่ง 3 คำสั่งไล่ออกจากราชการ โดยมีผู้ต้องคำสั่ง 3 ราย คือ เป็นอดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสามเสนวิทยาลัย และผู้เกี่ยวข้องรวม 3 ราย ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดร้ายแรง
ในปี 2561 เกิดเหตุร้องเรียนกรณีครูสอนวิชาพลศึกษา โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขตคลองเตย กทม.ลวนลามนักเรียนหญิง และพยามยามก่อเหตุข่มขืน โดยผู้เสียหายรายหนึ่งได้เปิดเผยว่า มีเพื่อนนักเรียนหญิงอีก 15 คน เคยถูกทำอนาจาร อาทิ โอบกอด จูบ หอมแก้ม เป็นต้น
สำหรับบทลงโทษกรณีดังกล่าว ที่ประชุมอนุกรรมการวิสามัญเกี่ยวกับวินัยและการออกจากราชการได้พิจารณามีมติว่า พฤติกรรมของครูรายดังกล่าวเป็นการกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งที่ประชุมได้มีมติสั่งลงโทษให้ไล่ออกจากราชการ และมีผลบังคับให้ออกจากราชการทันที
ในปี 2562 กลุ่มครูและลูกศิษย์จำนวนหนึ่ง ได้หลอกเด็กหญิงวัย 14 ปี ซึ่งศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งของจังหวัดมุกดาหาร ไปข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อ โดยมีผู้ต้องหารวม 7 ราย ในฐานความผิดกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง และเป็นการกระทำแก่ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครองเพื่อการอนาจาร
โดยในปี 2566 ศาลจังหวัดมุกดาหาร มีคำสั่งจำคุกตลอดชีวิต ส่วนค่าเสียหายทางแพ่งโดยรวมของจำเลยทุกคน ต้องชดใช้สูงเกือบ 3,000,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี
ในปี 2563 เกิดประเด็นร้อนขึ้นในกรณี ‘ครูจุ๋ม’ ซึ่งเป็นครูห้องอนุบาลโรงเรียนสารสาสน์ ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนชั้นนำของประเทศ ได้ใช้กำลังทำร้ายลูกศิษย์ ต่อมาผู้ปกครองได้สังเกตเห็นความผิดปกติของบุตร และมีท่าทีไม่อยากไปโรงเรียน จึงขอดูกล้องวงจรปิดจนทำให้รับทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ก่อนมีการรวมตัวกันเรียกร้องไปยังผู้บริหารโรงเรียน พร้อมนำหลักฐานไปแจ้งความดำเนินคดีทางกฎหมาย
ผลการกระทำดังกล่าวผู้บริหารโรงเรียนได้แสดงความรับผิดชอบและมีคำสั่งให้ ‘ครูจุ๋ม’ พ้นสภาพของการเป็นบุคคลากร ส่วนการดำเนินคดีศาลแขวงนนทบุรีได้สั่งจำคุก 195 วัน
ในปี 2566 มีเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อครูรายหนึ่งได้ออกมาแฉพฤติกรรม ครูในโรงเรียนได้ทำร้ายเด็กนักเรียนอายุเพียง 10 ปี โดยมีหลักฐานเป็นคลิปวีดีโอขณะก่อเหตุ
จนนำไปสู่การตั้ง ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้ง 2 ข้อหาครูที่ปรากฎในคลิปทำร้ายร่างกาย และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 3 ได้สั่งการไปยังโรงเรียนต้นสังกัดให้เลิกจ้างจากการเป็นครูอัตราจ้าง
65-66 พบล่วงละเมิดทางเพศ รวม 27 เรื่อง
สำหรับสถิติจากสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา กรณี ครูทำผิดจรรยาบรรณ ตั้งแต่ปี 2564-2566 มีความผิดทั้งสิ้น 174 ราย โดยแบ่งระดับความผิดทางจรรยาบรรณวิชาชีพดังนี้
ในระหว่างปี 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีเรื่องร้องเรียนกล่าวหา/กล่าวโทษ ในเรื่องเกี่ยวกับ ล่วงละเมิดทางเพศ รวม 27 เรื่อง ถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ 3 ราย ถูกเพิกถอนใบอนุญาต 16 ราย และอยู่ระหว่างการพิจารณาทางจรรยาบรรณของวิชาชีพ 8 เรื่อง