ไม่พบผลการค้นหา
‘ซูเปอร์โพล’ ยันปัจจัยชี้ขาดโกยคะแนนโค้งสุดท้าย อันดับหนึ่งนโยบายโดนใจ แก้ปัญหาความเดือดร้อน หน้าตาแคนนิเดตนายกฯ ‘อนุทิน’ได้แต้มนโยบายผู้สูงอายุ ‘จุรินทร์’ ขายได้นโยบายอุ้มเกษตรกร ‘พิธา’ ดูดีมีเสน่ห์ ชี้คนส่วนใหญ่พร้อมกา2บัตรพรรคเดียวกัน คาด ‘เพื่อไทย’ เป็นแกนนำ ตีคู่ ‘ภูมิใจไทย’ ชิงสูตรตั้งรัฐบาล

วันที่ 6 พ.ค. 2566 สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง “ปัจจัยชนะ”กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศอายุ 18 ปีขึ้นไป ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 3 – 6 พ.ค. พ.ศ.2566 โดยเมื่อถามถึงปัจจัยชนะที่ประชาชนใช้ตัดสินใจเลือกตั้งพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.4 ระบุ นโยบายโดนใจ รองลงมาคือร้อยละ 55.1 ระบุปัญหาเดือดร้อนที่กำลังเจอ ร้อยละ 38.8 ระบุ ผู้นำ ผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 36.7 ระบุ ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต ร้อยละ 35.4 ระบุ ผลประโยชน์ที่ได้รับตรง ร้อยละ 23.0 ระบุ พรรคการเมือง ร้อยละ 8.4 ระบุ ครอบครัวชี้นำ และร้อยละ 3.8 ระบุเพื่อนแนะนำ

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 58.3 ระบุ จะเลือกรวมสองบัตรพรรคเดียวกัน ในขณะที่ร้อยละ 38.7 ระบุเลือกแยก และร้อยละ 3.0 ระบุอื่น ๆ เช่น ยังไม่แน่ใจ ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ 3 อันดับแรก ผู้นำการเมืองที่ดูแลช่วยเหลือผู้สูงอายุ พบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร้อยละ 30.3

อันดับสอง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ร้อยละ 26.2

และอันดับสาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พรรครวมไทยสร้างชาติ ร้อยละ 25.3

ในขณะที่ 3 อันดับแรกผู้นำการเมืองที่ดูแลช่วยเหลือเกษตรกร พบว่า อันดับแรกได้แก่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ร้อยละ 28.8 อันดับสองได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร และอันดับสองเท่ากัน คือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ร้อยละ 27.4 อย่างไรก็ตาม 3 อันดับแรก ผู้นำการเมืองที่ดูดี มีเสน่ห์ แรงดึงดูดศรัทธา พบว่า อันดับหนึ่งได้แก่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 34.8 อันดับสองได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 32.6 และ อันดับสาม ได้แก่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 24.1

ที่น่าสนใจ คือ ถ้าเลือกได้ในฝั่งขั้วการเมืองขั้วฝ่ายรัฐบาลเดิม ผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีที่จะเลือก 3 อันดับแรก พบว่า อันดับแรกได้แก่ อนุทิน ชาญวีรกูล ร้อยละ 29.4 อันดับสองได้แก่ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ร้อยละ 27.8 และอันดับสาม ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 19.6 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม 3 อันดับแรกผู้เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าเลือกได้ในฝั่งขั้วการเมืองขั้วฝ่ายค้านเดิม พบว่า อันดับแรก ได้แก่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ร้อยละ 37.7 อันดับสองได้แก่ แพทองธาร ชินวัตร ร้อยละ 29.5 และอันดับสาม ได้แก่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ร้อยละ 17.3

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อถามถึง สูตรจัดตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้ง พบว่า ห่างกันไม่มาก ระหว่าง ร้อยละ 47.7 ระบุ พรรคเพื่อไทย นำจัดตั้งรัฐบาล และ ร้อยละ 44.5 ระบุ ภูมิใจไทย เป็นพรรคนำจัดตั้งรัฐบาล และร้อยละ 7.8 ระบุอื่น ๆ

ผศ.ดร.นพดล กรรณิกา ที่ปรึกษาซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ปัจจัยชนะชี้ขาดการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนอยู่ที่ นโยบาย ปัญหาเดือดร้อนที่ประชาชนกำลังเจอ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่เสนอตัวเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีโดยพบว่า ขวัญใจผู้สูงอายุนโยบายสุขภาพดูแลผู้สูงอายุอันดับหนึ่งคือ อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ส่วนคนที่ดูแลเกษตรกรอันดับหนึ่งคือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และคนที่ดูดีมีเสน่ห์มากสุดเป็น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่พรรคที่ประชาชนเห็นว่าน่าจะเป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลแข่งกันสูสีระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย

ซูเปอร์โพล _2405.jpeg