ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกพรรคเพื่อชาติ เตือนรัฐบาลหยุดแจกเงิน ไม่ช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจฐานราก แนะหากแก้ปัญหาไม่เป็น ควรหยุดสืบทอดอำนาจ ให้ผู้มีความสามารถเข้ามาทำงาน

นางสาวเกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ชี้ว่า รัฐบาลประยุทธ์ กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากด้วยการแจกเงินหลายวาระหลายรอบในระหว่างบริหารประเทศ 5 ปีที่ผ่านมา หนักสุดในรอบ 1 ปีก่อนการเลือกตั้งได้ทำการแจกเงินประชาชนไป 162,700 ล้านบาท แต่ไม่ได้ผล เศรษฐกิจฐานรากไม่ดีขึ้น ด้วยความติดใจอยากอยู่ในอำนาจต่อ ล่าสุดจึงจะแจกเงินอีก 22,000 ล้านบาท

โดยมีข่าวออกมาว่าจะมีการแจกเงินผู้ลงทะเบียนรายละ 1,500 บาทให้ไปท่องเที่ยวเมืองรอง เดือดร้อนถึงขนาดประชาชนต้องรุมด่าผ่านสื่อโซเชียลบอกไม่ต้องการเงินแจกท่องเที่ยวเมืองรอง

ตนเห็นว่าจะมีที่เดียวในโลกที่ประชาชนมีจิตสำนึกด่ารัฐบาลว่าอย่ามาแจกเงินแก้ปัญหา พร้อมกล่าวย้ำว่าประชาชนไทยไม่ได้หิวเงิน แต่ต้องการเครื่องจักรเศรษฐกิจการบริโภคให้ทำงาน ต้องการตลาดที่มีเงินสะพัด 

โฆษกพรรคเพื่อชาติ ตั้งคำถามว่า ทำไมรัฐบาลประยุทธ์ไม่เรียนรู้หลังจากการแจกเงินรอบแรกว่าไม่ได้ผล ควรเปลี่ยนวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่ยั่งยืน ตนไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์หรือผู้เชี่ยวชาญการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ตนแค่ลงพื้นที่คุยกับประชาชนยังรู้ปัญหาว่า ตอนนี้ระดับเศรษฐกิจฐานรากรายได้ไม่พอกับรายจ่ายเพื่อการบริโภค ขอเน้นว่าแค่การบริโภคไม่รวมอุปโภค เงินในท้องตลาดไม่มี การค้าขายชะลอตัวใกล้วิกฤติ สินค้าเกษตรราคาตกต่ำ 

"ทำไมรัฐบาลไม่แก้ที่จุดนี้ หรือถ้ารัฐบาลประยุทธ์ไม่รู้จะแก้จุดนี้เช่นใดก็อย่ายึดติดอำนาจปล่อยให้ผู้อื่นที่มีความสามารถอาสามาแก้ไข ไม่ใช่ดันทุรังอยู่ให้เศรษฐกิจฐานรากพัง และพังต่อไปทั้งปิรามิดเศรษฐกิจของประเทศ แล้วใช้วิธีการแจกเงินเพื่อสืบทอดอำนาจต่อไป ด้วยการหาเงินจากการรีดภาษีจากน้ำมันที่ขึ้นราคา 2 ครั้งใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาทั้งที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่เปลี่ยนแปลง เพิ่มค่า FT ไฟฟ้า ขึ้นค่ารถเมล์ ซ้ำเติมประชาชนฐานราก ทำให้รายจ่ายของประชาชนเพิ่มขึ้นในภาวะที่รายได้หายากและลดต่ำลง" นางสาว เกศปรียา กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :