โดย พิสุทธิ์ งามวิจิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ราคาหุ้น TRUE - DTAC ที่ร่วงลงมาอย่างแรง หลังจากยกเลิกการทำคำเสนอซื้อนั้น เกิดจากการเข้าใจผิดของนักลงทุนบางกลุ่มที่อ่านประกาศว่าดีลการควบรวมล่ม แต่ทั้งหมดมองว่าเป็นเพียงจิตวิทยา ไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งความเป็นจริง TRUE และ DTAC ยังคงเดินหน้าควบรวมกัน และมูลค่าที่ได้จากบริษัทใหม่จะสูงกว่าราคาหุ้น TRUE และ DTAC ปัจจุบัน เนื่องจากบริษัทจะได้รับผลดีในด้านของต้นทุนที่ลดลงอย่างมาก และจะมีกำไรทางบัญชีด้วย ซึ่งทำให้เป้า TRUE อยู่ที่ 6.28 บาท ส่วน DTAC อยู่ที่ 58.24บาท
"ที่ผ่านมาได้ให้กลยุทธ์ไปก่อนหน้านี้แล้ว ระหว่างนี้ถ้าหุ้นขึ้นให้ขาย ลงให้ซื้อ ดังนั้นตอนนี้เป็นจุดซื้อ เนื่องจากแม้ว่าจะยกเลิกทำคำเสนอซื้อหุ้นทั่วไป แต่ขั้นตอนต่อไป TRUE และ DTAC ยังต้องประกาศรับซื้อหุ้นจากผู้ที่โหวตไม่เห็นด้วยตามกฎหมายในวันที่ 4 เม.ย. 2565 ซึ่งมีราว 2% จะใช้ราคาวันที่ 1 เม.ย. 2565 ซึ่ง TRUE อยู่ที่ 5.15 บาท และ DTAC อยู่ที่ 50.50 บาท โดยเชื่อว่าราคาหุ้นที่ลงมาแรงจะทำให้ TRUE และ DTAC รีบประกาศรับซื้อหุ้น และเมื่อนั้นตลาดจะมั่นใจดีลการควบรวมไปต่อ และจะหุ้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง ก็จะกลับไปซื้อใหม่"
ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุว่า จากการประกาศแจ้งเรื่องการยกเลิกVTO ทรูดีแทค ระยะสั้นประเมินเป็นจิตวิทยาลบต่อกลุ่มสื่อสาร ทำให้ราคา Tender Offer (TRUE ที่ราคา 5.09 บาท, DTAC ที่ราคา 47.76 บาท) ที่เป็นตัวกำหนดจิตวิทยาซื้อขายหุ้นหายไป อย่างไรก็ตาม การยกเลิกดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขที่การควบรวมยังไม่แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ขณะที่แหล่งข่าวจาก TRUE เปิดเผยว่า การยกเลิกทำเทนเดอร์ เนื่องจากกรอบเวลาการทำตามเงื่อนไขก่อนเทนเดอร์ครบ 1 ปีแล้วนับจากวันที่ 20 พ.ย.64 เพราะการพิจารณาการควบรวมกิจการทั้งสองแห่งของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ล่าช้ากว่าที่ทั้งสองรายกำหนดไว้เบื้องต้นราว 5 เดือน
โนมูระ ประเมินว่า หากนักลงทุนเชื่อมั่นว่าการควบรวมจะเกิดขึ้นได้ ดังเช่นมุมมองฝ่ายวิจัยที่เชื่อว่าดีลดังกล่าวจะเดินหน้าต่อไปได้เช่นกัน ความคืบหน้าการควบรวมระยะถัดไป คาดจะสร้างมูลค่าเพิ่มที่ได้จากการควบรวมสูงกว่าราคา Tender Offer (TRUE ที่ราคา 5.09 บาท, DTAC ที่ราคา 47.76 บาท) โดยจากการศึกษา ฝ่ายวิจัยชี้ให้เห็นว่า หาก Synergy จากการควบรวมอยู่ที่ราว 5.0 พันล้านบาท/ปี ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ มูลค่าเหมาะสม DTAC และ TRUE จะอยู่ที่ 55 และ 5.4 บาท เชิงกลยุทธ์จึงมองเป็นจังหวะตั้งรับ