นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 2562 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบโครงการประกันภัยข้าวนาปี และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562 เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวนาปีและผู้เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ โครงการประกันภัยทั้ง 2 โครงการ มีรายละเอียด ดังนี้
โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2562 มีการพัฒนาจากโครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2561 ที่สำคัญ 3 ประการ คือ
โครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562 เป็นปีแรกในการดำเนินโครงการประกันภัยให้แก่เกษตรกรผู้เพาะปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยมีประเภทภัยที่ได้รับความคุ้มครอง มีการอุดหนุนค่าเบี้ยประกันภัยของภาครัฐ และมีหลักการให้เกษตรกรมีส่วนร่วมในการจ่ายค่าเบี้ยประกันภัย โดยสามารถซื้อหรือทำประกันภัยเพิ่มเติมเพื่อให้ได้รับความคุ้มครองมากขึ้นในรูปแบบเดียวกันกับโครงการประกันภัยข้าวนาปี
อย่างไรก็ตาม โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2562 และโครงการประกันภัยข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปีการผลิต 2562 สามารถเริ่มดำเนินการได้ทันทีหลังได้รับการอนุมัติโดยมติคณะรัฐมนตรี
ด้านนายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 ก.พ. มีมติเห็นชอบการดำเนินโครงการประกันภัยข้าวนาปีปีการผลิต 2562 ภายใต้วงเงินงบประมาณ 1,740.60 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณคงเหลือในส่วนที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เบิกจ่ายจากสำนักงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการจากปีการผลิต 2561จำนวน 164.25 ล้านบาท ทำให้เสนอของบประมาณเพิ่มเติมจำนวน 1,576.35 ล้านบาท
หลังจากโครงการนี้เมื่อปี 2561 นับว่าประสบความสำเร็จอย่างมากหากเทียบกับปีการผลิต 2559 และ 2560 ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 1.92 ล้านรายมีจำนวนพื้นที่เข้าโครงการ 27.60 ล้านไร่ หรือคิดเป็นร้อยละ 92 ของจำนวนพื้นที่เป้าหมายสูงสุด 30 ล้านไร่ และคิดเป็นร้อยละ 47 ของพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปีทั่วประเทศ
ดังนั้น เพื่อให้โครงการดังกล่าวสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง และช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับความคุ้มครองตลอดระยะเวลาปลูกข้าวนาปี ทั้งฤดูกาลผลิตจากความเสี่ยงด้านภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยให้เริ่มต้นโครงการ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2562 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ การทำประภัยข้าวนาปีนี้ยังกำหนดพื้นที่เป้าหมายเอาประกันภัยแบ่งออกเป็น 2 ระดับคือการรับประกันภัยพื้นฐานหรือเทียร์ 1 ที่ให้พื้นที่รับประกันสูงสุดไม่เกิน 30 ล้านไร่ แบ่งเป็นของกลุ่มลูกค้า ธ.ก.ส. ไม่เกิน 28 ล้านไร่/และกลุ่มเกษตรกรทั่วไปไม่เกิน 2 ล้านไร่ ในอัตราดอกเบี้ยเท่ากันทุกพื้นที่ 85 บาทต่อไร่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและอากรแสตมป์โดยรัฐจะอุดหนุน 58.02บาท และ ธ.ก.ส.อุดหนุน 34 บาท รวม 92.02 บาทต่อไร่
ส่วนกลุ่มเกษตรกรที่ไม่ใช่ลูกค้า ธ.ก.ส.จ่ายเอง 34 บาท โดยมีวงเงินคุ้มครองจาก 7 ภัยธรรมชาติ 1,260 บาทต่อไร่และจากภัยศัตรูพืชหรือโรคระบาด 230 บาทต่อไร่
ส่วนระดับการรับประกันภัยร่วมจ่ายโดยสมัครใจหรือเทียร์ 2 จะให้พื้นที่รับประกันภัยไม่เกิน 5 ล้านไร่ ที่ได้อัตราค่าเบี้ยประกันแตกต่างกันตามความเสี่ยงและได้รับวงเงินคุ้มครองจาก 7 ภัยธรรมชาติ 240 บาทต่อไร่/จากภัยศัตรูพืช 120 บาทต่อไร่