วันที่ 18 เม.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้วจำนวน 608,521 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็นเข็มแรก 526,706 ราย และเข็มสอง 81,815 ราย
การฉีดเร็วกว่านี้ไม่ได้ เนื่องจากถูกล็อกด้วยจำนวนวัคซีน โดยตอนนี้มีวัคซีนกระจายไป 1 ล้านโดส คนหนึ่งต้องฉีดสองเข็ม ถือว่าฉีดได้ตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา มีการตรวจรับวัคซีนโควิดของซิโนแวคเพิ่มอีก 1 ล้านโดส และได้กระจายไปจังหวัดต่างๆ แล้ว
สิ่งสำคัญคือบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้า จึงกำหนดให้ฉีดบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าให้ได้ 100% ภายใน 2 สัปดาห์ โดยวันที่ 30 เม.ย. บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้แจ้งมาทันที เชื่อว่าสัปดาห์เดียวน่าจะฉีดครบถ้วน
วัคซีน 1 ล้านโดสนี้จะถูกกระจายดังนี้
1.บุคลากรทางการแพทย์และสาธาณณสุขด่านหน้า จำนวน 599,800 โดส
2.พื้นที่สีแดง เช่น กทม.และปริมณฑล จำนวน 1 แสนโดส
3.ผู้มีโรคประจำตัว 157,200 โดส
4.เจ้าหน้าที่ บุคลากรอื่นๆ เช่น ตำรวจ ทหาร ศาล อัยการ ที่พบปะผู้คนจำนวนมาก และมีการติดเชื้อในระลอกใหม่ 54,320 โดส
กรณีของ ส.ส. จะอยู่ในกลุ่มนี้ด้วย เนื่องจากถือเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีการลงพื้นที่พบประชาชนจำนวนมาก เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อจากการทำงาน
5.สำรองกรณีฉุกเฉิน 98,680 โดส
นพ.โอภาส กล่าวถึงสถานการณ์การติดเชื้อว่า วันนี้มีรายงานผู้ติดเชื้อราย ใหม่ 1,767 ราย พบว่ามีผู้ป่วยอาการหนัก 128 รายในจำนวนนี้มี 28 รายที่ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งอาการรุนแรงมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตได้
ทั้งนี้กรมการแพทย์อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลการติดเชื้อรอบใหม่จากสายพันธุ์ อังกฤษว่าทำให้ปอดอักเสบรุนแรงเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน เบื้องต้นจากข้อมูลการระบาดที่เริ่มต้นจากสถานบันเทิง แล้วไปแพร่ต่อให้คนในครอบครัว แพร่ไปสู่ที่ทำงานและกระจายตัวภายในประเทศ โดยข้อมูล 4-8 เม.ย. ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้อจาก 1 คน ไปสู่คนอื่นๆ อยู่ที่ 2 กว่าๆ แต่หลังมีมาตรการปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ พบว่าอัตราการแพร่ระบาดอยู่ที่ 1.6 ดังนั้นแนวโน้มการระบาดขณะนี้อยู่ในช่วงชะลอตัว แต่ตัวเลขที่เพิ่มขณะนี้เป็นแรงเฉื่อยของการติดเชื้อก่อนหน้านี้ เพราะฉะนั้นแนวโน้มเราเริ่มคุมสถานการณ์ได้