สำนักข่าว CNN รายงานว่า องค์การอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ นาซา และหน่วยงานด้านอวกาศของสหภาพยุโรปได้เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมเหนือประเทศจีน โดยภาพที่ถ่ายไว้ระหว่างวันที่ 1 ถึง 20 ม.ค.แสดงให้เห็นว่าประเทศจีนมีการปล่อยก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ในระดับที่มีความเข้มข้นสูง
ขณะที่ภาพถ่ายของวันที่ 10 ถึง 20 ก.พ. กลับแสดงให้เห็นว่าปริมาณไนโตรเจนไดออกไซด์นั้นเบาบางจนแทบจะมองไม่เห็น ซึ่งเป็นความเปลี่ยนแปลงเด่นชัดหลังรัฐบาลจีนสั่งปิดโรงงานและหยุดงานจำนวนมากเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
Airborne Nitrogen Dioxide Plummets Over China https://t.co/URfLNy0GZJ #NASA
— NASA Earth (@NASAEarth) February 28, 2020
เฟย หลิว นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยด้านคุณภาพอากาศจากองค์การอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯระบุว่า สถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดคือปริมาณก๊าซไนโตรเจนไดออกไซโ์เหนือน่านฟ้าเมืองอู่ฮั่น ต้นกำเนิดของการระบาดไวรัสโควิด-19 และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขนาดนี้ในพื้นที่บริเวณกว้างขวางอย่างมาก และเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการระบาดของโรคระบาดเพียงครั้งเดียว
หลิวยังกล่าวอีกด้วยว่า โดยปกติแล้วปริมาณการปล่อยก๊าซพิษและมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญอยู่แล้วในช่วงเทศกาลวันหยุดตรุษจีนของทุกปี เพราะบรรดาบริษัทและโรงงานอุตสาหกรรมจะปิดทำการ แต่สำหรับปีนี้อากาศเหนือน่านฟ้าของจีนมีปริมาณมลพิษในอากาศลดลงต่อเนื่องยาวนานตั้งแต่เทศกาลตรุษจีนเป็นต้นมา
มลพิษในจีนลดฮวบหลัง 'โควิด-19' ระบาด ที่ปรากฏอยู่นี้คือก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ซึ่งมีสีเหลืองน้ำตาล ปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจากโรงงานอุตสาหกรรมและเครื่องยนต์ pic.twitter.com/VJ2XZV4gOh
— Joe Chonlawit (@JoeChonlawit) March 2, 2020
ทั้งนี้ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์คือก๊าซสีเหลืองน้ำตาลที่ปล่อยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศจากโรงงานอุตสาหกรรมผลิตพลังงาน เครื่องยนต์ของรถยนต์ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งก๊าซชนิดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ที่สูดดมเข้าไปเกิดอาการไอ หืดหอบ และอาการหายใจลำบาก