เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2566 พรรคเพื่อไทยนำโดย ธีรรัตน์ สำเร็จวานิชย์ ผู้รับผิดชอบนโยบายสวัสดิการ สตรี ผู้สูงอายุ และผู้พิการ และผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย และ ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ต้อนรับ เสาวลักษณ์ ทองก๊วย กรรมการว่าด้วยสิทธิคนพิการสหประชาชาติและผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนประจําสํานักงานข้าหลวงใหญ่สหประชาชาต (UNHCR) เข้าหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อนโยบายของพรรคเพื่อไทย
โดย เสาวลักษณ์ มองว่า นโยบายของพรรคมีความเหมาะสม เพราะเลือกดำเนินนโยบายภายใต้แนวคิดที่ “ถ้วนหน้า” ไม่แบ่งแยกหรือกีดกัน สอดคล้องกับความเห็นของตนที่ไม่อยากให้ผู้พิการถูกตีความเป็นพลเมืองกลุ่มพิเศษ แต่ต้องมองเป็นพลเมืองแบบเดียวกันเฉกเช่นคนธรรมดาทั่วไปที่พึงจะได้รับสิทธิต่างๆ เสมือนคนอื่น แต่ก็ยังต้องมีการออกแบบมาตรการพิเศษที่จะส่งเสริมให้กลุ่มผู้พิการ หรือผู้มีความหลากหลายอื่นๆ ได้รับสิทธิเหล่านั้นเสมือนผู้อื่นได้จริง
ธีรรัตน์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ตลอดที่ผ่านมาก็พบเห็นทั้งกลุ่มผู้พิการและผู้สูงอายุจำนวนมากที่ถูกลิดรอนสิทธิ์ เพราะไม่สามารถออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านได้เหมือนคนอื่นอย่างอิสระ อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของการพัฒนาเมืองที่ไม่รองรับ เช่น ทางเท้าที่ไม่เหมาะสม ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะที่ผู้พิการใช้ไม่ได้ หรือห้องน้ำสำหรับผู้พิการที่มีไม่เพียงพอ เป็นต้น มากไปกว่านั้นการใช้งบประมาณที่ดูแลสวัสดิภาพของผู้พิการในช่วงที่ผ่านมากลับถูกใช้ไปแบบไม่เข้าใจและมุ่งเน้นการอุปถัมภ์ เช่น การซื้อรถเข็นแจกจำนวนมาก หรือให้เงินช่วยเหลือเพื่อประคองชีพ แต่กลับไม่ได้ส่งเสริมการปรับปรุงพื้นที่สาธารณะต่างๆให้รองรับการใช้งานของผู้พิการ หรือการส่งเสริมให้ผู้พิการได้รับการยอมรับและจ้างงานเสมือนพลเมืองโดยทั่วไป
ชนินทร์ กล่าวว่า จุดมุ่งหมายของการออกแบบนโยบายของพรรคเพื่อไทยคือคนไทยทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติที่เสมอกัน ดังเช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคที่เป็นระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลที่มีเจตนารมณ์กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการเติมกำลังซื้อให้คนทุกกลุ่ม ลงไปยังทุกพื้นที่ และหากได้เข้ามาเป็นรัฐบาลเพื่อผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จ พรรคเพื่อไทยพร้อมเปิดเวทีให้ผู้แทนกลุ่มต่างๆเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่อการดำเนินนโยบายในรายละเอียด เพื่อไม่ให้กลุ่มที่มีความหลากหลายใดๆ ทั้งเพศ วัย ชาติพันธุ์ หรือผู้พิการ ถูกลิดรอนสิทธิ์โดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม จึงขอให้มีความเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย ที่คิดใหญ่และทำเป็น พร้อมเป็นรัฐบาลที่เข้าถึงและเข้าใจคนทุกกลุ่มอย่างแท้จริง