เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. อนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติประเภทพิเศษ หรือ Special Tourist VISA (STV) สามารถเข้ามาพำนักแบบระยะยาว (ลองสเตย์) ได้แล้วบางส่วน ตั้งแต่เดือน ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ทว่าการจะเปิดรับนักท่องเที่ยว 'แบบปกติ' ดูเหมือนจะยังอีกยาวไกล ท่ามกลางเสียงเรียกร้อง เพรียกหารายได้ที่ขาดหาย จากฝั่งผู้ประกอบการภาคการท่องเที่ยว
สาเหตุหลักที่ผู้ประกอบการบอกเป็นเสียงเดียวกันถึงความต้องการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ คือ ความกังวลว่าธุรกิจจะเข้าสู่สถานะ ‘ล้มละลาย’
อำพร วาคาบายาชิ ผู้ประกอบการร้านนวดแผนไทยย่านห้วยขวาง บอกกับ 'วอยซ์' ว่า ปัจจุบันธุรกิจย่ำแย่มาก กำไรไม่ต้องพูดถึง เนื่องจากที่ผ่านมาพึ่งพาลูกค้าชาวต่างชาติเกือบ 100% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนและไต้หวัน
ขณะนี้ต้องฝืนเดินหน้าธุรกิจต่อ เพราะมีทางเลือกไม่มากและไม่รู้ว่าจะมีคนไทยเข้ามาเมื่อไหร่ ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นกังวลว่าธุรกิจจะอยู่ต่อได้ไม่ถึงสิ้นปีนี้
หนึ่งในความต้องการเดียว คืออยากให้มีการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเร็วที่สุด แม้ส่วนตัวจะกลัวโควิด-19 แต่ก็กลัวอดตายมากกว่า
“เมื่อก่อนกลัวมาเลยโควิด ไปทำประกันโน่นนี่นั่น พักหลังกลัวอดตายยิ่งกว่าโควิดแล้ว เพราะอันไหนก็ตายเหมือนกัน อดก็ตาย โควิดก็ตาย โควิดอาจจะรอดก็ได้ อดตายนี่ตายแน่นอนไม่มีจะกิน” อำพร กล่าว
เช่นเดียวกับ จินดา ล่อเจริญ และ นพรดา วาวีเจริญสิน ผู้ประกอบการร้านอาหารที่รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก บอกว่า อยากให้เปิดประเทศโดยเร็ว เพื่อให้เศรษฐกิจดีขึ้นและมีกำลังใจในการทำงาน
ทั้งคู่บอกว่าขณะนี้พยายามปรับตัวเพื่อรองรับลูกค้าคนไทยมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้คึกคักเหมือนเมื่อก่อน จะขายราคาแพงก็ไม่ได้ ต้องยอมขาดทุนเพื่อให้ธุรกิจยังพอเดินหน้าได้ อย่างไรก็ตามหากกินเวลานานกว่านี้ก็คงรับไม่ไหว
“เรื่องโควิดก็ยังกังวลบ้าง แต่คิดว่าไม่ร้ายแรงเหมือนเมื่อก่อน ปล่อยให้เข้ามาได้แล้ว ถ้าอย่างนี้ต่อไปก็จะยิ่งแย่ลง ทุกๆ คนจะว่างงานขึ้นเยอะ”
หนึ่งในแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 สิ่งที่ผู้ประกอบการเห็นตรงกันว่าหากต้องเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวควรยังต้องมีการ ‘กักตัว’ อย่างน้อย 3 วัน หรือ 1 สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อให้แน่ใจว่าการควบคุมโรคจะยังสามารถทำได้ เพราะหากปิดประเทศรอบสอง โอกาสที่ธุรกิจจะเดินต่อก็เป็นไปได้ยาก
“ถ้าจะเปิดรับเข้ามาจริงๆ ก็เปิดได้ค่ะ แต่อยากให้ตรวจเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่มีโรค เราก็พร้อมรับนักท่องเที่ยวเสมอ แต่ขอให้เป็นตามมาตรการตรวจให้เช็กดีๆ ค่ะ”
ในขณะที่ วิชิต ประกอบโกศล นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลพิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วไปจากประเทศหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงโควิดต่ำมากกว่า 60 วันขึ้นไป เช่น จีน และไต้หวัน เข้ามาเที่ยวเมืองไทย ‘แบบไม่กักตัว’ เพราะถ้ายังกำหนดให้มีการกักตัว คงไม่มีนักท่องเที่ยวทั่วไปคนใดอยากมาเที่ยว โดยสามารถใช้มาตรการดูแลอย่างคุมเข้ม กำหนดให้มีการเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น ควบคุมพื้นที่ที่พานักท่องเที่ยวไปเที่ยว และสามารถติดตามตัวได้
แม้ว่าล่าสุดตามที่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จะส่งสัญญาณแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวโดยปกติ ลดระยะเวลาการกักตัวเหลือเพียง 10 วัน แต่จนถึงขณะนี้เรื่องก็เงียบหายไป ดังนั้นคำถามที่ว่าพร้อมหรือยังกับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ท้ายที่สุดก็คงต้องรอฝ่ายบริหารเป็นผู้ตัดสินใจเด็ดขาด ซึ่งผู้ประกอบการก็ต่างหวังเล็กๆ ว่าจะได้ต้อนรับนักท่องเที่ยวโดยเร็ว