วันที่ 14 ต.ค. ที่ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 กองทัพอากาศ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการช่วยเหลือคนไทยในสถานการณ์ความรุนแรงบริเวณพื้นที่ตะวันออกกลางว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่า มีคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ราย รวมเป็น 24 ราย จึงรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวประกันยังตัวเลขเท่าเดิมคือ 16 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 14 ราย โดยขณะนี้รัฐบาลประสานงานอย่างานต่อเนื่องกับทางท่านทูตอิสราเอล ประกอบกับตัวเลขคนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับล่าสุดอยู่ที่ประมาณ 7,000 คน
เศรษฐา กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณสายการบินพาณิชย์ทั้ง 3 สายการบิน คือ สายการบินไทย สายการบินแอร์เอเชีย และสายการบินนกแอร์ ที่ประสานงานร่วมกันเพื่อจะเดินทางไปอพยพคนไทยกลับมา รวมถึงได้ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวประสานกับสายการบินสไปซ์เจ็ท โดยจะใช้เครื่องบิน A340 ในการลำเลียงผู้อพยพ โดยคาดว่าจะสามารถอพยพให้ได้เฉลี่ย 350 คนต่อไฟล์ท
ส่วนกรณีที่นักวิชาการด้านความมั่นคงแสดงความกังวลต่อการวางตัวของประเทศไทยในสงครามระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์นั้น เศรษฐา ยืนยันว่า รัฐบาลไทยเป็นกลาง ไม่เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร แต่หน้าที่ขณะนี้คือ ต้องทำงานร่วมกับทุกฝ่าย เพื่อปกป้องคนไทยให้ปลอดภัย
เศรษฐา ย้ำว่า ไม่มีการเข้าข้างใคร หรือสนับสนุนฝ่ายใด เพราะภารกิจการนำคนไทยกลับมาอย่างปลอดภัยคือสิ่งที่เราต้องสนับสนุน ส่วนเรื่องการประสานนานาชาติเพื่อขอผ่านน่านฟ้าสำหรับสายการบินพาณิชย์ที่จะไปลำเลียงผู้อพยพนั้น ได้ทำการประสานอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาอะไร