หลังมีแถลงอย่างเป็นทางการว่าตั้งแต่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าสาธารณรัฐมัลดีฟส์ ประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย พร้อมเปิดรับการเดินทางมาเยือนของนักท่องเที่ยวอีกครั้งอย่างเป็นทางการ ภายใต้แคมเปญ 'กลับมารู้จักมัลดีฟส์อีกครั้ง...ด้านที่สดใสของชีวิต'
ล่าสุดรีสอร์ตหรูในบนเกาะมัลดีฟส์อย่าง The Nautilus Maldives ที่เพิ่งกลับมาให้บริการอีกครั้งในวันที่ 1 ก.ย. ที่ผ่านมา หลังปิดตัวชั่วคราวจากวิกฤตโรคระบาด ออกแคมเปญดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการเปลี่ยนสถานที่ทำงานใหม่ให้ใกล้ชิดธรรมชาติและทะเลเพิ่มมากขึ้น
แพ็กเกจดังกล่าว นักท่องเที่ยวสามารถจองที่พักเพื่อมาพักผ่อนและทำงานเริ่มต้น 7 คืน สำหรับ 2 ท่าน ด้วยราคาเริ่มต้น 2.3 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 7 แสนบาท ขณะที่ข้อเสนอดังกล่าวจะมีราคาถูกลงสำหรับผู้ที่ต้องการอาศัยนานขึ้น 2-3 สัปดาห์ ด้วยราคา 3.7 และ 5.2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.1 และ 1.6 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ของรีสอร์ตย้ำว่า สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาทำงานยังที่พักจะได้รับบริการเหนือระดับ ทั้งตัวที่พักอาศัยซึ่งตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัว คลาสออกกำลังกายทั้งโยคะ ฟิตเนส รวมไปถึงคลาสนั่งสมาธิ ทั้งยังมีการล่องเรือยอร์ชชมโลมาช่วงดวงอาทิตย์ตกดิน
เท่านั้นยังไม่พอ หากแขกต้องการทำงานบนหาดทราย พนักงานสามารถเตรียมโต๊ะทำงานส่วนตัวรวมถึงร่มกันแดดไปจัดตั้งไว้ให้ถึงที่
กลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเช่นนี้ไม่ได้มีแค่กับมัลดีฟส์เท่านั้น ฝั่ง บาร์เบโดส ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติก เปิดโครงการฟรีวีซ่า 12 เดือน ให้กับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปท่องเที่ยวและทำงานในช่วงกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับ เอสโตเนีย, จอร์เจีย และอาณาจักรเบอร์มิวดาซึ่งเป็นดินแดนโพ้นทะเลของสหราชอาณาจักร
อูซี สกีต ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวบาร์เบโดสของสหรัฐฯ กล่าวว่า ตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่หายไปกระทบกับความเป็นอยู่ของผู้คนในประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก กรณีของบาร์เบโดส มูลค่าทางเศรษฐกิจที่เกิดจากอุตสาหกรรมดังกล่าวสูงถึง 14% ของจีดีพี โดยในปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเยือนบาร์เบโดสกว่า 7.12 แสนราย ขณะที่ตัวเลขตั้งแต่เดือน เม.ย.-มิ.ย.แทบจะกลายเป็นศูนย์
ด้วยเหตุนี้ โครงการจูงใจนักท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ การให้วีซ่ายาวถึง 12 เดือน จึงเป็นกลยุทธ์เชิญชวนที่สำคัญ และล่าสุด สกีต ชี้ว่า ภายในระยะเวลา 1 สัปดาห์ หลังประกาศโครงการดังกล่าว ใบสมัครวีซ่ามากกว่า 1,000 ชุด ถูกส่งเข้ามาในระบบแล้ว โดยส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ, แคนาดา และสหราชอาณาจักร
แม้กลยุทธ์เหล่านี้อาจไม่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทั้งหมด แต่ก็เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายรายได้สูงที่ทำงานโดยมีอิสระค่อนข้างมากอย่างฟรีแลนซ์ ซึ่งต้องการใช้ชีวิตและทำงานอย่างผ่อนคลายและสะดวกสบาย