การโจมตีดังกล่าวด้วยขีปนาวุธของรัสเซียต่อยูเครน เกิดขึ้นเมื่อวันอังคาร (27 มิ.ย.) ที่ร้านอาหารและย่านช็อปปิ้งของเมืองครามาตอร์สก์ ซึ่งปัจจุบันยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครน แต่เมืองดังกล่าวอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองไปจากยูเครน
มีรายงานว่าประชาชนหลายคนยังคงติดอยู่ภายใต้ซากอาคารที่พังถล่มลงจากขีปนาวุธ โดยรายงานเบื้องต้นระบุว่า มีการพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย โดยในนั้นรวมถึงเด็ก 1 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนอย่างน้อย 42 ราย ที่อยู่ในบริเวณร้านขายพิซซ่าของจุดเกิดเหตุ
ฝูงชนจำนวนมากรวมตัวกันในที่เกิดเหตุขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทีมรถพยาบาล และทหารเข้าปฏิบัติภารกิจเพื่อกู้ร่างผู้เคราะห์ร้าย โดยตามคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์ มีคนหลายสิบคนถูกดึงออกมาจากซากปรักหักพัง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าพวกเขาเสียชีวิตแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่
ทั้งนี้ จากภาพวิดีโอที่ถ่ายในสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งถูกส่งต่อกันอย่างรวดเร็วบน Telegram แสดงให้เห็นผู้ได้รับบาดเจ็บจากการโจมตี ซึ่งนอนอยู่บนพื้นและกำลังได้รับการปฐมพยาบาล รวมถึงทารกที่ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะด้วย
โวโลดีเมอร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ระบุว่าการโจมตีครามาตอร์สก์โดยรัสเซียในครั้งนี้ “เป็นการแสดงถึงการก่อการร้าย” พร้อมเรียกร้องให้มีการเดินหน้าดำเนินคดีต่อการกระทำในครั้งนี้ของรัสเซีย อย่างไรก็ดี กองทัพยูเครนยังคงเดินหน้าการรุกคืบโต้ตอบรัสเซีย ในพื้นที่ที่ยูเครนถูกกองกำลังของปูตินยึดไปอยู่เช่นเคย
ครามาตอร์สก์เคยเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ราว 150,000 คน และมันเป็นเมืองใหญ่แห่งสุดท้ายที่อยู่ภายใต้การควบคุมของยูเครนทางตะวันออกของประเทศ ทั้งนี้ ตัวเมืองตั้งอยู่ห่างจากแนวหน้ารบประมาณ 30 กิโลเมตร
การโจมตีด้วยขีปนาวุธในครั้งนี้ของรัสเซีย เกิดขึ้นในช่วงเวลาแค่ไม่กี่วัน หลังจากรัสเซียพบกับการก่อกบฏโดยกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ที่นำโดย เยฟเกนี ปริโกชิน ซึ่งเข้ายึดเมืองทางตอนใต้ของรัสเซีย ก่อนพยายามยกทัพเข้าสู่กรุงมอสโก อย่างไรก็ดี การก่อกบฏกลับยุติลงอย่างรวดเร็ว แต่ภาพความโกลาหลดังกล่าวได้แสดงถึงรอยร้าวที่เกิดขึ้นในอำนาจของ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียเอง
ที่มา: