วันนี้ (5 ก.ย.2567) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแสดงความยินดีกับสำนักงานเขตคลองสามวา สภาวัฒนธรรมเขตคลองสามวา และชมรมไทยรามัญแป้นทอง ในโอกาสได้รับรางวัล 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่นกรุงเทพมหานคร ขนมเหนียวสูตรโบราณ ชุมชนแป้นทองสัมพันธ์ ที่ได้รับการคัดเลือกอาหารถิ่นประจำจังหวัด ตามโครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่นสู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food รสชาติ…ที่หายไป The Lost Taste ปีที่ 2) ประจำปี 2567 ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรม กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร่วมกับ 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร ดำเนินการคัดเลือกอาหารถิ่นประจำจังหวัด โดยมีเมนูอาหารที่ให้ประชาชนร่วมโหวตทั่วประเทศ 563 รายการ แบ่งเป็นเมนูอาหารคาว 234 รายการ เมนูอาหารหวาน 184 รายการ เมนูอาหารว่าง 143 รายการ และเมนูอาหารอื่น 2 รายการ ซึ่งแต่ละเมนูมีความพิเศษและสะท้อนถึงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของแต่ละจังหวัดอย่างชัดเจน 

สำหรับประวัติความเป็นมา ขนมเหนียวสูตรโบราณ คือขนมเหนียวสะท้อนภูมิปัญญาอันล้ำค่าของชาวมอญ ไม่ว่าจะเป็นการผสมสานระหว่างแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวจ้าว มะพร้าว แสดงถึงประโยชน์จากพืชเกษตรหลักในท้องถิ่น เป็นการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาวมอญ ผ่านการถ่ายทอดสูตรและเทคนิคการทำจากรุ่นสู่รุ่น เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสานต่อไป 

วิธีการและขั้นตอนการปรุง นวดแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวจ้าวรวมกัน และใส่สีผสมอาหารจากธรรมชาติที่เตรียมไว้ นวดให้เป็นก้อน เวลาปั้นจะได้ไม่ติดมือ ต้มน้ำร้อนพอเดือด นำแป้งที่ปั้นไว้เป็นรูปกลมหรือแบนใส่ลงในหม้อต้ม จนแป้งลอยขึ้นมา ตักมาพักในน้ำเย็นพักไว้ก่อน นำมะพร้าวน้ำหอมมาขูด และนำไปนึ่งไว้ ประมาณ 5-10 นาที เคี่ยวน้ำตาลอ้อยประมาณ 1-2 ชั่วโมงให้เหนียวหนืด และพักทิ้งไว้ให้น้ำตาลเซตตัว นำข้าวเหนียวที่ตากไว้มาทอดให้ฟูกรอบขึ้นตามต้องการ นำแป้งที่พักไว้มาคลุกใส่มะพร้าวที่ขูดไว้ ใส่ข้าวพอง โรยด้วยน้ำตาลเคี่ยว จัดแต่งขนมให้สวยงามตามต้องการ 

เคล็ดลับการปรุง เทคนิคการนึ่งมะพร้าวในเวลาที่เหมาะสม เพื่อยืดอายุขนม สะท้อนถึงความเข้าใจในการถนอมอาหารให้มีรสกลมกล่อม และยังเห็นได้จากการเพิ่มเกลือเล็กน้อยในมะพร้าว และใช้สีผสมอาหารจากธรรมชาติ เช่น อัญชัน แครอท หรือฟักทอง เพื่อเพิ่มสีสันและคุณค่าทางการโภชนาการ