ที่ผ่านมาบางประเทศยังคงลังเลที่จะดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยวิธีนี้ เนื่องจากกังวลเรื่องผลกระทบต่อตนเอง อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ (26 ก.พ. 65) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สหรัฐอเมริกา และประเทศพันธมิตร ร่วมกันตอบโต้รัสเซียด้วยการออกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจที่เข้มข้นขึ้น หนึ่งในนั้นรวมถึงการตัดธนาคารบางแห่งของรัสเซียออกจากระบบสวิฟต์ นอกจากนี้สินทรัพย์ของธนาคารกลางของรัสเซียจะถูกระงับเช่นกัน ซึ่งเป็นการจำกัดความสามารถของรัสเซียในการเข้าถึงทุนสำรองในต่างประเทศ
แถลงการณ์ร่วมที่เผยแพร่ในเว็บไซต์ของทำเนียบขาวระบุว่า
“พวกเรา ผู้นำคณะกรรมาธิการยุโรป ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สหราชอาณาจักร แคนาดา และสหรัฐอเมริกาประณามการเลือกทำสงครามของปูติน และประณามการโจมตีประเทศอธิปไตยและประชาชนยูเครน เรายืนหยัดร่วมกับรัฐบาลยูเครนและชาวยูเครนที่พยายามอย่างกล้าหาญในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย สงครามของรัสเซียแสดงถึงการทำร้ายฎเกณฑ์และบรรทัดฐานระดับสากลที่มีมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งเรามุ่งมั่นที่จะปกป้อง เราจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบ และทำให้แน่ใจว่า สงครามครั้งนี้จะเป็นความล้มเหลวทางยุทธศาสตร์ของปูติน”
การตัดธนาคารรัสเซียออกจากระบบสวิฟต์จะสร้างความเสียหายให้กับการค้าของรัสเซีย และทำให้บริษัทของรัสเซียทำธุรกิจได้ยากขึ้น
SWIFT หรือ Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication เป็นระบบส่งข้อความที่ปลอดภัย ซึ่งอำนวยความสะดวกในการชำระเงินข้ามพรมแดนอย่างรวดเร็ว ทำให้การค้าระหว่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่น มีการโอนเงินผ่านระบบนี้หลายล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี และเป็นกลไกหลักของการค้าระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อธนาคารแห่งใดแห่งหนึ่งถูกตัดขาดจากระบบสวิฟต์ หากต้องการทำธุรกรรมการเงินระหว่างประเทศ ธนาคารนั้นจะต้องติดต่อกับธนาคารต่างประเทศเองโดยตรง ซึ่งทำให้ต้องเสียเงินและเวลามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าวว่า ธนาคารส่วนใหญ่ทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะหยุดการทำธุรกรรมทั้งหมดกับธนาคารรัสเซียที่ถูกลบออกจากเครือข่าย
ที่มา: