ไม่พบผลการค้นหา
ศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้กลับคำตัดสินของศาลชั้นต้นที่พิพากษาจำคุกนายอีแจยอง รองประธาน บ.ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ในคดีทุจริตติดสินบนรัฐบาล โดยศาลอุทธรณ์สั่งลดโทษและให้รอลงอาญา พร้อมปล่อยตัวนายอีทันที สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนจำนวนมาก

นายอีแจยอง วัย 49 ปี รองประธานบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ถูกเบิกตัวขึ้นศาลอุทธรณ์ในกรุงโซลของเกาหลีใต้ วันนี้ (5 ก.พ. 2561) เพื่อรับฟังคำพิพากษาในคดีที่เขาถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวพันกับการติดสินบนเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลของ น.ส. พักกึนเฮ อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ซึ่งถูกลงมติถอดถอนจากตำแหน่งเมื่อเดือน มี.ค.ปีที่แล้ว โดยศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลดโทษนายอีจาก 5 ปี เหลือเพียง 2 ปี 6 เดือน แต่ให้รอลงอาญาและปล่อยตัวทันที โดยนายอีจะถูกควบคุมความประพฤติต่อไปอีก 4 ปีด้วย

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า นายอีถูกจับกุมและควบคุมตัวตั้งแต่เดือน ก.พ. 2560 ในข้อหาติดสินบนและฉ้อโกง สืบเนื่องจากกรณีที่ บ.ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ เกี่ยวข้องกับการบริจาคเงินให้มูลนิธิของนางชเวซุนซิล เพื่อนสนิทของ น.ส.พักกึนเฮ อดีต ปธน. เพื่อให้นางชเวใช้เส้นสายในรัฐบาล สนับสนุนการควบรวมกิจการของบริษัทในเครือซัมซุงฯ แต่นางชเวถูกจับกุมและตัดสินความผิดในคดีทุจริตและหาผลประโยชน์ส่วนตัวด้วยการแอบอ้างชื่อ น.ส.พักไปก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่นายอีถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 5 ปีเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา

ทีมทนายความของนายอีต่อสู้ข้อกล่าวหาในคดีติดสินบนด้วยการระบุว่า ผู้บริหารระดับสูงของซัมซุงฯ เป็นคนดำเนินเรื่องสินบนโดยที่นายอีไม่มีส่วนรู้เห็น และทีมทนายจะยื่นคำร้องอุทธรณ์เพื่อสู้ข้อหาฉ้อโกงเป็นอันดับต่อไป

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายอีแจยองมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลเพื่อเยี่ยมนายอีกึนฮี ประธานบริษัทซัมซุง ผู้เป็นบิดาของเขา ซึ่งกำลังพักรักษาตัวอยู่ หลังล้มป่วยด้วยอาการหัวใจวายเมื่อปี 2557 แต่ยังไม่อาจระบุได้ว่านายอีแจยองจะกลับไปปฏิบัติหน้าที่ใน บ.ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ ตามเดิมหรือไม่ เนื่องจากบริษัทได้แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งรักษาการณ์แทนในระหว่างที่นายอีถูกควบคุมตัวเมื่อปีที่แล้ว 

AP18036299861435.jpg

(รถยนต์ของนายอีแจยองขับฝ่ากลุ่มนักข่าวที่มารอสัมภาษณ์)

คำพิพากษาลดโทษและปล่อยตัวนายอี สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชนชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก โดยศาสตราจารย์ ควอนยองจูน ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจแชโบล หรือเครือข่ายอภิธุรกิจของตระกูลทรงอิทธิพลในเกาหลีใต้ ระบุว่า การปล่อยตัวนายอีเป็นสิ่งที่ทำลายความเชื่อมั่นต่อนโยบายของรัฐบาลนายมุนแจอิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนปัจจุบัน ซึ่งเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะกวาดล้างการทุจริตและการผูกขาดทางธุรกิจของกลุ่มแชโบล โดยก่อนหน้านี้ นายอีกึนฮี บิดาของนายอีแจ-ยอง เป็นคนหนึ่งที่ถูกสอบสวนในคดีทุจริตและฟอกเงิน แต่ได้รับการอภัยโทษในสมัยของอดีตประธานาธิบดีอีมยองบัก

ส่วนนายจงมยองซ็อก อดีต รปภ.วัย 65 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงโซล ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า "ถึงยังไงคนมีอำนาจก็ชนะเสมอ ไม่ว่าจะเป็นคนในแวดวงธุรกิจหรือการเมือง แต่ถ้าคนธรรมดาทำผิดกฎหมายบ้าง ก็จะไม่ได้รับการอภัยใดๆ ทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นคนที่มีทั้งอำนาจและสถานะทางสังคม ทั้งระบบก็จะเข้าข้างพวกเขาเสมอ"

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของนายชองฮยองชิก หนึ่งในผู้พิพากษาอาวุโสที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีของนายอี ระบุว่า น.ส.พักกึนเฮและพรรคพวก ใช้อำนาจกดดันให้ บ.ซัมซุงฯ จ่ายเงินสินบนเพื่อสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ซัมซุงไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเป็นวัฒนธรรมจำยอมที่ผู้คนในแวดวงธุรกิจต้องยอมผู้มีอำนาจทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม หากนายอีกลับไปรับตำแหน่งเดิม อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ บ.ซัมซุงฯ และนักวิเคราะห์ประเมินว่า เขาอาจจะต้องเก็บตัวหรือยอมรับการเปลี่ยนแปลงบางอย่างในองค์กร

อ่านเพิ่มเติม: