พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานทำลายของกลาง คดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ประจำปี 2561 โดยระบุว่าการดำเนินงานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในอนุกรรมการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งปีนี้มีจำนวนของกลางรวบรวมจากทั่วประเทศ กว่า 2.1ล้านชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท
โดยเป็นสินค้าผิดกฎหมายทั้งหมด เป็นการจับกุมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ,กรมศุลกากร ,กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วยเสื้อผ้ากระเป๋า เข็มขัด รองเท้านาฬิกา โทรศัพท์มือถือ แผ่นซีดี แว่นตาเครื่องสำอาง หมวกและผ้าห่ม นอกจากนี้พลเอกประวิตร กล่าวเพิ่มเติมว่าสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเหล่านี้ เป็นสินค้าผิดกฎหมายจะต้องนำมาทำลายอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหล่านี้กลับมาหมุนเวียนภายในตลาดหรือใช้ได้อีก
พร้อมยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเจ้าหน้าที่ราชการไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกกับผู้ลักลอบหรือขาย สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
นางชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า วันนี้ (3 ก.ย.) ได้นำเจ้าของบริษัทลิขสิทธิ์ รวมทั้งเอกอัครราชทูตจากประเทศอาเซียนเข้าร่วมในพิธีเปิดงานประชาสัมพันธ์และทำลายของกลางคดีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่คดีถึงที่สุดแล้ว โดยของกลางประกอบด้วย เสื้อผ้า สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์ และอะไหล่เครื่องยนต์ เป็นต้น กว่า 2 ล้านชิ้น มูลค่า 1.37 พันล้านบาท ซึ่งความร่วมมือกันในครั้งนี้ส่งผลให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องพอใจที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ ภายหลังจากพิธีจะนำของกลางทั้งหมดไปทำลายที่โรงงานระบบปิดจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจะไม่สามารถนำกลับมาหมุนเวียนขายในท้องตลาดได้อีก สร้างความเชื่อมั่นให้แก่เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมทั้งประชาชนทั่วไป เนื่องจากของกลางดังกล่าวส่งผลกระทบเชิงลบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติ
นางชุติมา ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขอให้ประชาชนเลือกใช้สินค้าที่มีสิทธิบัตร และช่วยกันไม่ซื้อสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และไม่สนับสนุนของที่ลอกเลียนแบบ โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมากเพื่อให้ประเทศชาติยอมรับว่าประเทศไทยดำเนินการอย่างจริงจัง