จีนเริ่มการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯร้อยละ 25 รวม 128 รายการ โดยเฉพาะเนื้อหมูและไวน์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักที่สหรัฐฯส่งมาให้จีน เพื่อตอบโต้การที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าเหล็กร้อยละ 25 และอลูมิเนียมร้อยละ 10 เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา 

ทางการจีนยืนยันว่าการขึ้นภาษีครั้งนี้ ซึ่งจะกระทบกับมูลค่าสินค้านำเข้าประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 62,000 ล้านบาท เป็นการปกป้องผลประโยชน์ของจีนและสร้างสมดุลการค้า ชดเชยกับรายได้ที่สูญเสียไปจากการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียมของสหรัฐฯ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลจีนย้ำมาตลอดว่าสงครามการค้าจะไม่เป็นผลดีกับประเทศใด แต่จีนก็ไม่หวั่นเกรงที่ทำสงครามการค้า หากถูกกระทำก่อน

อย่างไรก็ตาม นายทรัมป์ยืนยันว่าการทำสงครามการค้าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และก็เป็นเรื่องง่ายมากที่สหรัฐฯจะเอาชนะในสงครามครั้งนี้ โดยนอกจากการขึ้นภาษีเหล็กและอลูมิเนียม ที่กระทบกับจีนและพันธมิตรของสหรัฐฯฌองอย่างแคนาดา เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รัฐบาลทรัมป์ยังประกาศคว่ำบาตรจีนเพื่อลงโทษที่จีนละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาบริษัทเอกชนของสหรัฐฯอย่างเป็นระบบ โดยมีแผนจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีกหลายร้อยรายการ รวมมูลค่าถึง 60,000 ล้านดอลลาร์

สงครามการค้าครั้งนี้ถูกจับตามองด้วยความกังวลจากนักวิเคราะห์และรัฐบาลทั่วโลก เนื่องจากหากสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯและจีนตัดสินใจทำสงครามการค้ากันแบบยืดเยื้อ ย่อมจะสงผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ และจะมีผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมหาศาล เพราะ 2 ประเทศนี้รวมกันครองสัดส่วน GDP เป็นจำนวนมหาศาล