สมาคมผู้ค้าเนื้อแห่งฝรั่งเศสยื่นจดหมายถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของฝรั่งเศส โดยกล่าวว่า ร้านขายเนื้อหลายแห่งถูกโจมตีด้วยการสาดเลือดปลอมเข้าใส่ร้าน รวมไปถึงการพ่นสีเขียนข้อความต่างๆ บนหน้าต่างร้านค้า
ในจดหมายดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ค้าเนื้อกว่า 18,000 คน ต่างมีความกังวลถึงการประชาสัมพันธ์และการให้ความสำคัญของสื่อที่มีต่อการบริโภคมังสวิรัติและวิถีชีวิตของกลุ่มวีแกนที่มากขึ้น รวมไปถึงการนำเสนอโครงการที่กลุ่มวีแกนต้องการเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนส่วนใหญ่อีกด้วย
(กลุ่มวีแกนประท้วงให้ปิดโรงฆ่าสัตว์และรณรงค์ให้เลิกการบริโภคเนื้อสัตว์ในปารีส เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 2018)
ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ร้านขายเนื้อ 15 ร้าน ต่างถูกสาดเลือดปลอมใส่หน้าร้าน นอกจากนี้เมื่อปีที่แล้ว ร้านขายชีสแห่งหนึ่งในเมืองลียง ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ถูกโจมตีด้วยการพ่นสีเปรย์ พร้อมทั้งเขียนคำว่า 'นมถูกสังหาร' (Milk is murdered.) และ 'นมถูกข่มขืน' (Milk is raped.)
ฌอน ฟรองซัวส์ กีญาร์ด เจ้าของร้านขายเนื้อในบริตานี กล่าวกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่า ร้านขายเนื้อเล็กๆ เหล่านี้มีความเสี่ยงที่จะถูกโจมตีมากขึ้นจากกลุ่มวีแกน เพราะซูเปอร์มาร์เก็ตและโรงฆ่าสัตว์ต่างได้รับการคุ้มครอง แต่ร้านขายเนื้อไม่มี รัฐบาลต้องมีมาตรการจัดการ��างอย่างต่อการกระทำเหล่านี้
เมื่อถามถึงการต่อต้านกลุ่มมังสวิรัติ กีญาร์ดกล่าวว่า การไม่กินเนื้อเป็นสิทธิของกลุ่มวีแกน ไม่เป็นปัญหาอะไรกับพวกคนขายเนื้อ แต่อยากจะขอร้องให้ทุกคนเคารพอาชีพและลูกค้าของเรา ซึ่งก็เป็นคนกลุ่มใหญ่ในฝรั่งเศสด้วย
ทั้งนี้ จากการสำรวจในปี2016 พบว่า กลุ่มคนที่รับประทานมังสวิรัติและกลุ่มวีแกนนั้นมีเพียงแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั่วประเทศฝรั่งเศส
ที่มา The Guardian / Independent
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: