คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก 'คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ Sudarat Keyuraphan' โดยมีข้อความดังนี้

"ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ดิฉันได้มีโอกาสกลับไป “โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ณ เขตอำเภอท่ายาง จ.เพชรบุรี อีกครั้ง

การได้ศึกษาดูงาน ณ ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ ทำให้พวกเราได้เห็นน้ำพระราชหฤทัย และพระราชปณิธานที่ยิ่งใหญ่ของในหลวง ร.9

พระราชปณิธานที่ว่านั้นคือความพยายามในการพลิกฟื้นผืนดินที่แห้งแล้งให้คืนสู่ความอุดมสมบูรณ์ ทุกวันนี้บนพื้นที่ 250 ไร่ ที่เดิมมีแต่ความแห้งแล้ง เป็นดินทรายและหินลูกรัง ขาดแคลนแหล่งน้ำ ชาวบ้านทำการเพาะปลูกไม่ได้ กลับมีแต่ความเขียวชอุ่ม พร้อมด้วยไร่นาทดลอง ผองปศุสัตว์ อีกทั้งอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้า

ในส่วนการทำเกษตรมีทั้งการปลูกพืชไร่ ไม้ผล พืชผักสวนครัว ไม้ดอกไม้ประดับ และไม้ป่า ในส่วนการทำปศุสัตว์ ก็เช่น ไก่ไข่ โคนม ผลผลิตจากศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ ปลอดสารพิษ มีคุณภาพสูง เจ้าหน้าที่เล่าว่า รายได้จากผลผลิตทางการเกษตรทั้งหมด ทำให้เกษตรกรเลี้ยงตัวเองได้ มีอาชีพโดยไม่ต้องละถิ่นฐานของตัวเอง

พี่น้องประชาชนสามารถอุดหนุนสินค้าเกษตรจากศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ได้ที่ร้านโกลเด้น เพลซ ทุกสาขา

พวกเรายังได้มีโอกาสเห็น “เรือนที่ประทับทรงงาน” ซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้นแบบเรียบง่ายและแสนธรรมดาที่สุด ทว่าทุกครั้งที่เสด็จพระราชดำเนินยังโครงการชั่งหัวมัน บ้านไม้ที่เรียบง่ายหลังนี้ก็จะเป็นสถานที่ประทับพักอิริยาบถ และทรงงาน ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ พร้อมใจกันขนานนามว่า “บ้านไร่ของในหลวง”

“โครงการชั่งหัวมัน ตามพระราชดำริฯ” เป็นแหล่งดูงานด้านการเกษตรครบวงจรที่คนไทยทุกคนควรหาโอกาสไปเยี่ยมชมให้ได้ เพราะไม่เพียงทำให้ได้ความรู้ และแรงบัลดาลใจกลับมาลงมือปฏิบัติ แต่ยังทำให้พวกเราได้สัมผัสได้เข้าใจลึกซึ้งถึงพระราชปณิธานที่ได้ทรงทุ่มเทอุทิศด้วยพระวิริยอุตสาหะปฏิบัติบำเพ็ญเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรชาวไทยทั้งปวง

การได้กลับไปยังศูนย์เรียนรู้แห่งนี้อีกครั้ง ทำให้ดิฉันหวนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ภาคภูมิใจ และเป็นเกียรติยศสูงสุดของตัวดิฉันเองและวงศ์ตระกูลที่ได้มีโอกาสทำงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทสนองพระมหากรุณาธิคุณ

เช่นเมื่อครั้งที่ดิฉันทำงานเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโอกาสทำงานรับสนองพระราชดำริหลายโครงการ ซึ่งแต่ละโครงการล้วนแสดงให้เห็นถึงพระอัจฉริยะภาพอันสูงส่ง และพระเมตตาอย่างหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ยาวนานกว่า 70 ปี

และนับเป็นความโชคดีของคนไทยที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชปณิธานที่แน่วแน่ในการทรงงานเพื่อจะสืบสาน รักษา และต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และแนวพระราชดำริต่างๆ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนโครงการพัฒนาอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระองค์เอง ซึ่งล้วนยังประโยชน์สุขแก่ปวงพสกนิกรเป็นอเนกอนันต์

แม้พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่โครงการตามพระราชดำริน้อยใหญ่กว่า 4,000 โครงการยังคงผลิดอกออกผลและให้ความร่มเย็นแก่ปวงพสกนิกร และจะยังคงสถิตในดวงใจของเหล่าปวงชนชาวไทยสืบไป

ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณตราบนิรันดร์ และจะขอสืบสานพระราชปณิธานเพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณ ด้วยการมุ่งมั่นปฏิบัติงาน สร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ และประชาชนสืบไป"