ไม่พบผลการค้นหา
สถานการณ์น้ำโขงเริ่มหนุนสูงต่อเนื่อง ประกอบกับฝนตกหนักในหลายพื้นที่ ทำให้การระบายน้ำเป็นไปด้วยความลำบาก

ที่จังหวัดนครพนม เกิดฝนหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วม เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน อีกทั้งระดับน้ำโขงเริ่มหนุนสูงขึ้นเกือบเข้าขั้นวิกฤต ส่วนที่ ต.พิมาน อ.นาแก จ.นครพนม มีน้ำป่าจากเขาภูพานน้อยทะลักท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน โดยในพื้นที่ บ้านพิมาน ต.พิมาน รวมกว่า 3 หมู่บ้าน มีบ้านเรือนเสี่ยงได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขังไม่ต่ำกว่า 300 หลังคาเรือน ซึ่งขณะนี้เริ่มท่วมขังแล้วกว่า 30 หลังคาเรือน และระดับน้ำยังเพิ่มต่อเนื่อง เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยงติดกับลำน้ำก่ำ ทั้งเป็นจุดบรรจบกับลำน้ำบัง ก่อนไหลลงสู่น้ำโขง แต่มีปัญหาไหลระบายลงน้ำโขงช้า เพราะปริมาณน้ำโขงสูง ทำให้น้ำท่วมขังขยายวงกว้างมากขึ้น ชาวบ้านต่างพากันวิตกกังวล และเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เนื่องจากปีที่ผ่านมา (60) พื้นที่ ต.พิมาน อ.นาแก เคยได้รับผลกระทบหนักจากปัญหาลำน้ำก่ำเอ่อล้น ทำให้มีน้ำท่วมขังบ้านเรือน นานกว่า 1 เดือน  

นอกจากนี้ยังพบว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำภายใน โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ซึ่งดูแลการระบายน้ำ ก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขง มีปริมาณสูงถึงร้อยละ 80 ของความจุ จึงต้องเร่งเปิดประตูระบายน้ำก่ำตอนล่าง 100 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณวันละ 20ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อรองรับน้ำที่ไหลระบายมาจากน้ำหนองหาร ซึ่งในช่วงนี้ทางหนองหาร ระบายวันละ ประมาณ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวัง น้ำท่วมฉับพลัน


ตัวเมืองสกลนครส่อวิกฤตน้ำเติมทุกทาง หนองหารปักป้ายเหลืองแล้ว

ส่วนที่จังหวัดสกลนคร เกิดฝนตกหนักเหมือนฟ้ารั่วตั้งแต่เมื่อคืนวานนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายจุดเนื่องจากระบายไม่ทัน ขณะเดียวกันจากฝนที่เติมลงมาต่อเนื่องไม่หยุดหย่อนเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ต่ำแล้วในเขตเทศบาลนครสกลนคร สูงประมาณ 10-15 เซนติเมตร บางจุด 30 เซนติเมตร เช่นบริเวณ ชุมชนมะขามป้อม ชุมชนรุ่งพัฒนา ชุมชนหลังเทศบาล ถนนเสรีไทย ใกล้แยกบิ๊กซี ถนนเสรีไทยศูนย์ราชการ

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดหนองหารที่หน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดสกลนคร มีการขึ้นป้ายปักธงประกาศเตือนจากสีเขียวสภาวะปกติเปลี่ยนเป็นธงสีเหลืองซึ่งหมายความว่ามีการประการเตือนเพื่อเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด

ธงเหลือง.jpg

ล่าสุดนายนพดล ไพฑูรย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เรียกประชุมด่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดฝนหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ สำหรับจุดเสี่ยงหนองสนมได้มีการนำเครื่องสูบน้ำเข้าไปติดตั้งเพิ่มอีก 1 เครื่อง รวมเป็น 4 เครื่อง หนองหารยังระบายอย่างต่อเนื่อง ส่วนบริเวณที่เป็นจุดน้ำท่วมซ้ำซาก ได้ส่งเจ้าหน้าที่ และเครื่องมือเข้าไปดำเนินการช่วยเหลือแล้ว สิ่งที่กังวลขณะนี้คือ ตัวแปรจากน้ำโขงหากน้ำโขงหนุนสูงจะมีปัญหาในการระบายน้ำหนองหารออกไป ตอนนี้น้ำจากทุกทิศทางบนเทือกเขาภูพานที่ตกต่อเนื่องจนอยู่จุดอิ่มตัวได้ไหลลงมาตามลำน้ำสาขาเป็นจำนวนมากเช่น ลำน้ำพุง อ.เต่างอย ขณะนี้เหลือไม่กี่เซนติเมตรจะล้นตลิ่งแล้ว ซึ่งเป็นน้ำที่จะไปเติมเข้าสู่หนองหารจึงสั่งการให้รายงานสถานการณ์ทุก 30 นาที ในเบื้องต้นจึงขอแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่รอบหนองหารและปลายน้ำที่ระบายน้ำลงสู่หนองหาร เช่น ต.เหล่าปอแดง ต.ด่านม่วงคำ ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอดทั้งคืน

เต่างอย.jpg


ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน รุดเยี่ยมหมู่บ้านแม่สามแลบ ที่ถนนถูกตัดขาด

นายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน พร้อมคณะ ไ���้เดินทางไปตรวจเยี่ยมช่องทางจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าบ้านแม่สามแลบ โดยมี พ.ต.สมยงค์ ทองมิตร ผบ.ร้อย ทพ.3620 บรรยายสรุปสถานการณ์ช่องทางดังกล่าวให้คณะรับฟัง จากนั้นคณะของ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจชาวบ้านในหมู่บ้านแม่สามแลบ ที่ประสบเหตุอุทกภัย เกิดฝนตกหนักและดินภูเขาสไลด์ลงปิดทับเส้นทาง มีต้นไม้ล้มขวางทาง และเสาไฟฟ้า ถูกดินสไลด์ล้มลงขวางเส้นทางและบ้านเรือนของราษฎร โดยทาง ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งรีบให้การช่วยเหลือราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัยเป็นการเร่งด่วน

S__14057476.jpg

ทั้งนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เข้ากำจัดสไลด์และต้นไม้ที่ล้มบริเวณเส้นทางเข้า บ.แม่สามแลบ ม.1 ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งได้ดำเนินการแล้ว แต่มีฝนตกต่อเนื่องดินยังไหลลงมาตลอด ขณะนี้รถยนต์ยังไม่สามารถผ่านเข้า - ออกได้ ส่วนเสาไฟฟ้าที่ล้ม ทาง กฟภ.สบเมย เข้ามาดำเนินสำรวจตรวจสอบแล้วจะทำการซ่อมแซมต่อไป


ชายแดนเชียงราย - เมียนมาฝนตกต่อเนื่องทำปริมาณน้ำสายเพิ่มระดับเริ่มเอ่อล้นท่วมร้านค้าริมฝั่ง

ฝนที่ตกหนักและตกต่อเนื่องติดต่อกันมานานกว่า 1 สัปดาห์ โดยเฉพาะบริเวณเขตชายแดนไทยด้าน จ.เชียงราย และชายแดนประเทศเมียนมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำสาย ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรมแดนระหว่าง อ.แม่สาย จ.เชียงราย กับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เพิ่มระดับสูงขึ้นทำให้เริ่มเอ่อล้นเข้าร้านอาหารริมน้ำ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ต่ำและน้ำบางส่วนได้เข้าท่วมถนนทางลอดใต้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ทำให้ต้องปิดการจราจรไม่ให้ใช้เส้นทางดังกล่าวเป้่นการชั่วคราว

จากการตรวจสอบระดับน้ำเบื้องต้นพบว่ามีความลึกของน้ำอยู่ที่ประมาณ 4 เมตร ซึ่งจุดวิกฤติอยู่ที่ 4.9 เมตร หากน้ำเพิ่มระดับจนเลยจุดวิกฤต มวลน้ำก็จะเอ่อเข้าท่วมบริเวณชุมชนสันลมจอย ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจที่มีร้านจำหน่ายสินค้ากว่า 200 ร้านค้า รวมไปถึงชุมชนเกาะทราย และชุมชนไม้ลุงขน เขตเทศบาลตำบลแม่สาย ซึ่งล่าสุดพบว่าระดับน้ำยังอยู่ภาวะที่ทรงตัวและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มระดับขึ้น

โดยมีรายงานว่ามวลน้ำส่วนหนึ่งได้ไหลเข้าท่วมบริเวณลานจอดรถของร้านค้าปลอดภาษีและบริเวณตลาดท่าล้อ ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิงแหล่งใหญ่ของชายแดนท่าขี้เหล็ก บางส่วนแล้ว แต่ยังมีระดับเพียง 1 ฟุตยังไม่ส่งผลกระทบอะไรมากนัก อย่างไรก็ตามทางกลุ่มผู้ประกอบร้านค้าทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมาได้มีการเตรียมความพร้อมเก็บสินค้าไว้บนพื้นที่สูงและเก็บทรัพย์สินมีค่าไปไว้ในที่ปลอดภัยเพราะเกรงจะมีมวลน้ำไหลมาสมทบในช่วงกลางคืนซึ่งอาจทำให้ข้าวของเสียหายได้