ความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทย และแกร็บ แพลตฟอร์มที่มุ่งอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้บริโภคทั้งในด้านการเดินทาง การรับประทานอาหาร การส่งของ เพื่อปรับเปลี่ยนประสบการณ์ของลูกค้าสู่บริการ 'ดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ อีโคซิสเต็ม' (Digital Lifestyle Ecosystem)

ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยได้ร่วมทุนในแกร็บ ผ่านบริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (Beacon VC) ซึ่งเป็นธุรกิจเพื่อสนับสนุนการพัฒนาฟินเทคของธนาคาร ด้วยการร่วมลงทุนในแกร็บ 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 1,600 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการร่วมทุนครั้งแรกกับบริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจหลักอยู่นอกประเทศไทย กับฐานลูกค้าผู้ใช้บริการทั่วอาเซียนของแกร็บที่มีโอกาสเติบโตเทียบเท่ากับสถาบันการเงินชั้นนำ

แม้ว่าตัวเลข 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จะไม่มากนัก เมื่อเทียบกับมูลค่าเงินระดมที่แกร็บเปิดรับทั้งหมด 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ถือเป็นก้าวแรกของธนาคารพาณิชย์ของไทยที่สนใจลงทุนในฟินเทคที่ดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ

โดยความร่วมมือกันครั้งนี้ ครอบคลุมการพัฒนาแอปพลิเคชันการชำระเงินผ่านสมาร์ทโฟนและบริการทางการเงินต่างๆ ใน 3 ส่วน ได้แก่

• แกร็บเพย์ บาย เคแบงก์ (GrabPay by KBank) ซึ่งเป็นการสร้างกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนสมาร์ทโฟน (Mobile Wallet) ให้กับผู้ใช้งานเพื่อสร้างความสะดวกสบายในการจ่ายค่าบริการผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การพัฒนาครั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมบริการพร้อมเพย์ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Scheme)

• การพัฒนาแอปพลิเคชันเคพลัสและแกร็บให้สามารถใช้งานร่วมกันได้อย่างราบรื่นขึ้น โดยจะมีการพัฒนาร่วมกันหลังบ้านของทั้งสองบริษัท เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกมากขึ้น

• นำเสนอผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าที่อยู่ในวงจรการให้บริการของธนาคารกสิกรไทยและแกร็บ เช่น การเสนอสินเชื่อกสิกรไทยให้ผู้ขับรถแกร็บสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า เคพลัสเองมุ่งหวังที่จะมอบความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งานแอปพลิเคชันแกร็ปและเคพลัสมากขึ้น

“ธนาคารได้วางกลยุทธ์ในการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำในแต่ละธุรกิจ ด้วยคอนเซปต์ Better Together ด้วยการผสานจุดแข็งของแต่ละฝ่าย เพื่อร่วมกันนำเสนอบริการที่ดีที่สุดให้กับการใช้ชีวิตของลูกค้าในทุกๆ วัน” นายพัชร กล่าว

นายธรินทร์ ธนียวัน กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า แกร็บเพย์ บาย เคแบงก์ พร้อมที่จะเปิดให้ใช้งานแล้ว เพียงแต่ตอนนี้เรื่องอยู่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขณะเดียวกัน มองว่ายังมีคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เข้าถึงบริการของธนาคารซึ่งทำให้ประชาชนเหล่านี้เผชิญความยากลำบากในการเข้าถึงความช่วยเหลือทางด้านการเงินจากธนาคารพาณิชย์ต่างๆ

ดังนั้นความร่วมมือกันครั้งนี้จะทำให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสสามารถเข้าถึงการให้บริการทางการเงินจากธนาคารกสิกรไทยได้ ขณะที่ แกร็บมีข้อมูลรายรับของเหล่าคนขับรถเป็นฐานข้อมูลในการพิจารณาสินเชื่ออยู่แล้ว โดยทางแกร็บเผยว่าจะเริ่มให้กู้จากมูลค่าเงินจำนวนน้อยไปก่อน

อย่างไรก็ตามก็มีความเป็นไปได้ที่ทั้งแกร็บและกสิกรต้องเผชิญกับคู่แข่งที่จะเข้ามาในอนาคตไม่ว่าจะเป็น 'โกเจ็ก' แอปพลิเคชั่นเรียกรถจากอินโดนีเซีย หรืออาลีเพย์วอลเล็ตที่เป็นผู้นำด้านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของโลก