นาย คง วัน ซิง ผู้ก่อตั้งและประธานอำนวยการ JustCo เปิดเผยว่า ถ้าแอร์บีเอ็นบีสร้างปรากฎการณ์เขย่าธุรกิจการท่องเที่ยวได้ อูเบอร์ disrupt (ป่วน) ธุรกิจคมนาคมขนส่งได้ จัสท์โค ก็จะเป็นผู้สร้างปรากฎการณ์เขย่าธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และออฟฟิศให้เช่า ด้วยเป้าหมายเปิด 'โคเวิร์คกิ้ง สเปซ' ให้ครบ 100 สาขาทั่วเอเชีย ภายในปี 2563
"ธุรกิจโค เวิร์คกิ้ง สเปซ ไม่ใช่เพียงเรื่องของพื้นที่ แต่เป็นธุรกิจที่ต้องการการสร้างสภาพแวดล้อมเพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ สร้างชุมชน สร้างปฏิสัมพันธ์เชื่อมต่อกันสำหรับคนทำงาน มันเป็นวิถีใหม่ของสถานที่ทำงาน" นายคง วัน ซิง กล่าว
อีกด้านหนึ่ง โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ของจัสท์โค จะไม่ได้มีพื้นที่เล็กแค่ 200-300 ตารางเมตร แต่จะทำใหญ่ใช้พื้นที่ 3,000-4,000 ตารางเมตรขึ้นไป หรืออย่างที่สิงคโปร์ ใช้พื้นที่มากถึง 18,000-19,000 ตารางเมตร เพราะบริษัทต้องการพื้นที่ใหญ่สำหรับการให้บริการธุรกิจหรือสมาชิกเข้ามาใช้งานให้มาก เพื่อทำให้บริษัทใหญ่พอและคุ้มทุนสำหรับการลงทุนด้านเทคโนโลยีไอที
ประกอบกับหลายปีที่ผ่านมา พื้นที่ทำงานสร้างสรรค์ หรือ โคเวิร์คกิ้ง สเปซ เกิดขึ้นและเติบโตอย่างก้าวกระโดด เป็นที่นิยมในหมู่คนทำงานรุ่นใหม่ สตาร์ทอัพ จนถึงธุรกิจขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนวิธีการทำงานและแนวคิดเพื่อต่อยอดธุรกิจ เป็นชุมชนคนทำงานความคิดสร้างสรรค์
ส่วนจุดเด่นของธุรกิจโคเวิร์คกิ้ง สเปซ ของจัสท์โค คือ การให้บรรยากาศการทำงานที่อบอุ่น เป็นกันเอง มีระบบการดูแลการบริหารจัดการพื้นที่ที่เป็นมิตร มีระบบไอทีที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ธุรกิจรุ่นใหม่ รวมทั้งเครือข่ายสมาชิก หรือ ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ในสิงคโปร์ที่จะสร้างการเชื่อมโยงต่อยอดธุรกิจของสมาชิกใหม่ได้ เป็นต้น
ทั้งนี้ เมื่อกลางเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา เพิ่งมีการทดลองเปิดตัวโคเวิร์คกิ้ง สเปซ ภายใต้แบรนด์ 'จัสท์โค' ที่ตั้งอยู่บนชั้น 9-10 อาคาร เอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ซึ่งการขยายสาขาครั้งนี้ จัสท์โค จากสิงคโปร์ทำงานร่วมกับบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หลังจากเมื่อเดือน ก.ย. 2560 แสนสิริได้เข้าลงทุนซื้อหุ้นของบริษัท จัสท์โค โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ เป็นเงินมูลค่า 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 398 ล้านบาท เพื่อมีสิทธิถือหุ้นร้อยละ 6 ในจัสท์โค โฮลดิ้งส์
"เรามีเป้าหมายให้ปีแรกมีสมาชิกที่เข้ามาใช้บริการ โคเวิร์คกิ้ง สเปซ ในกรุงเทพ ประมาณ 3,000-5,000 ราย และเราพบว่า กลุ่มธุรกิจที่เข้ามาใช้พื้นที่เรา จะเป็นธุรกิจออกแบบ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมถึงเครือข่ายธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ซึ่งต่างจากสมาชิกที่ใช้บริการที่สิงคโปร์จะเป็นกลุ่มการเงิน ธุรกิจบริการ ธุรกิจยาและเวชภัณฑ์"
ด้านนายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การร่วมลงทุนในจัสท์โค เป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์ Everyday visionaries ของบริษัท เพราะเห็นว่าโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว ธุรกิจต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงนั้น การร่วมมือกับจัสท์โค จึงเป็นการต่อขยายการให้บริการลูกค้าของแสนสิริ ตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป รวมทั้งจัสท์โคเติบโตเป็นธุรกิจระดับภูมิภาคแล้ว การร่วมมือกันก็จะทำให้ลูกค้าของแสนสิริมาใช้บริการของจัสท์โคได้สะดวกขึ้น และสามารถใช้ได้ทุกสาขาที่มีในเอเชีย
สำหรับค่าเช่าพื้นที่พร้อมบริการต่างๆ จะแบ่งเป็น 4 ระดับ ได้แก่
สำหรับผู้ใช้บริการสามารถเข้ามาใช้พื้นที่และนำที่อยู่ที่ตั้งพร้อมหลักฐานต่างๆ ไปจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจได้สะดวกและรวดเร็ว พร้อมกับอายุสัญญาแบบปีต่อปี ซึ่งยืดหยุ่นกับรูปแบบธุรกิจสมัยใหม่มากกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับโคเวิร์คกิ้ง สเปซ อื่นๆ หรือออฟฟิศให้เช่าทั่วไปที่กำหนดให้ทำสัญญาเช่าอย่างน้อย 3 ปี เป็นต้น
ทั้งนี้ จัสท์โค มีแผนจะเปิดให้บริการโค เวิร์คกิ้ง สเปซ อีกแห่งในกรุงเทพฯ ที่อาคารแคปิตอล ทาวเวอร์ ออนซีซั่น เพลส ภายในเดือน ก.ค.นี้ โดยจะมีพื้นที่ประมาณ 4,000 ตารางเมตร ครอบคลุม 3 ชั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :